วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ตอนที่ 10 Day 3 in Downtown

มาสู่วันที่ 3 แล้วสำหรับการเทรน วันนี้ตื่นมาก็ไปทำงานตามปกติ วันนี้ดีหน่อยที่มีโอกาสได้เยี่ยมเยือน super user ที่ downtown ของ Houston ก็ถือว่าน่าตื่นเต้น ที่น่าสนใจคือที่เมืองนี้เขต downtown เงียบมากกกก แทบไม่มีคนเลย ถ้าใครเคยไปเมืองใหญ่ ๆ อย่าง New york, Chicago, Boston จะเห็นคนเดินกันหยุบหยับ แต่ไม่ใช่ที่นี่ Houston ซึ่งโล่งมากกก นึกว่าเมืองร้าง

พอเดินสำรวจเมืองพลางเดินไปออฟฟิตก็ถึงที่หมายเพื่อที่จะได้คุยงานกับฝั่ง business และเป็นการคุยกับ Face 2 Face ครั้งแรก หลังจากคุยผ่านทาง e-mail กับ โทรศัพท์เป็นเวลานึง พอเจอหน้าก็ทำการทักทายเบื้องต้นทั่วไป โดยตัวงานน่าเบื่อก็ตัดไปตอนคุยเสร็จเลยละกัน สำหรับวันนี้ก็มีโอกาสเดินใน downtown เพื่อไปหาของกินข้าวโดยมีคนนำทางพาไปกิน สำหรับมื้อเที่ยงวันนี้ก็คือเกี้ยว (ขอบอกว่าตอนสั่งหิวมากกก เพราะไปสายเลยอดกินข้าวเช้าเลย)



วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ตอนที่ 9 Day Two

วันนี้เป็นวันที่ 2 ของการมีเทรน ก็ตั้งนาฬิกาให้ตื่นตอนตี 5 ครึ่ง พอตื่นมาปุ๊บก็เดินลากสังขารออกจากห้องพัก แล้วตรงดิ่งไปฟิตเนส (แห่ม อย่างฟิตขอบอก..) พอเล่นเสร็จก็กลับมาที่ห้องอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็นั่งรถไปทำงาน วันนี้อากาศเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่น่าเชื่อว่าอากาศจะสามารถเย็นลงได้ขนาดนี้ภายในหนึ่งวัน แถมวันนี้ลมแรงอีกต่างหาก




ภาพบรรยากาศออฟฟิตฝั่งด้านหน้า ตอนที่แล้วจะเป็นด้านข้างของตึก



เพื่อการเริ่มต้นวันที่สมบูรณ์ก้อต้องมีอาหารเช้าที่ดี วันนี้ก็เริ่มต้นด้วยสลัดเพื่อสุขภาม(มั้ง)

วันนี้โดยรวมก็ไม่มีอะไรมาก เหมือนการทำงานทั่วไป + มีการเทรนนิ่งกับพี่เบิ้ม ขอตัดไปเที่ยงเลยละกัน วันนี้โอกาสดี มื้อเที่ยงได้กินข้าวกับพี่เบิ้ม


อาหารเที่ยงวันนี้ขอนำเสนอ potato with BBQ beef ขอบอกว่ามันใหญ่มาก แต่ก็ไม่คณาปากเพราะกินซะเรียบ นอกจากได้เยอะ รสชาติก็ยังดีอีกด้วย

กลับมาจากมื้อเที่ยงก็ทำงานตอนถึงเย็น บรรยากาศธรรมดามาก
พอเลิกงานก็ตรงกลับโรงแรมมานั่งพักได้ซักหน่อยก็ออกไปกินข้าวเย็น

วันนี้ไปลองกิน BBQ ใน Galleria mall ร้านดูซอมซ่อ นิด ๆ แต่อาหารอร่อยใช้ได้เลย ตามรูปด้านล่าง


มื้อเย็นวันนี้คือ Trio BBQ ประกอบ ด้วย Beef, Turkey แล้วก็ Pork Rib ราดด้วย BBQ sauce ตามด้วย Potato salad และ Coleslaw สำหรับ side dish โอวะมันจอร์จมากกกก

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ตอนที่ 8 First day in Office

มาถึงตอนที่ 8 จนได้ตอนแรกกะเขียนบรรยายแค่ตอนขึ้นเครื่องเพราะมีเรื่องน่าตื่นเต้น ตอนนี้กลายเป็นเขียนไดอารีประจำวันไปซะแล้ว อาจเพราะไม่มีอะไรทำมั้ง จะนั่งดูทีวีอยู่ห้องก็เหงา ก็เลยไม่รู้จะทำอะไร มานั่งเขียน blog ในห้างแก้เหงา อย่างน้อยมีคนเดินผ่านไปมาจะได้รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ถ้าทนเหงาไม่ไหวจริง ๆ คงได้เดินไปซื้อ iPad มาเล่นจะได้มีคนคุยด้วยซักนิด คอมบริษัทที่แบกมาด้วย โปรแกรมแชทอะไรก็ลงไม่ได้ เน็ตก็ต่อยาก เฮ้อ… เข้าเรื่องดีกว่า บ่นมากไปจะพาลไม่มีคนอยากอ่านเอา แค่นี้ก็แทบไม่มีแล้ว

เริ่มเรื่องเลยละกัน ช่วงเช้า ตั้งแต่มานี่ยังนอนหลับไม่ค่อยเต็มที่เลย ทั้งเรื่อง time zone ที่ต่างจากเมืองไทยเกือบ 12 ชั่วโมง ทั้งแปลกที่แปลกทาง เลยพาลให้รู้สึกพักผ่อนไม่เต็มที่ ทั้ง ๆ ที่นอนก็เยอะนะ

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่สลึมสลือตื่นมาตั้งกะตี 4 ก็เลยนอนกลิ้งไปหวังจะหลับอีกซักรอบก็ไม่หลับ จนถึงประมาณ หกโมงครึ่ง ก็เลยลุกจากเตียงเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน พอแต่งหล่อเรียบร้อย ก็ลงไป lobyy แล้วให้คนที่หน้าประตูโรงแรมเรียกแท็กซี่ให้ จะได้ไปที่ทำงาน

พอมาถึงที่ออฟฟิตแล้ว ก็ตรงดิ่งไปติดต่อกับ reception ให้ติดต่อคนที่เราจะมาเทรนด้วย ซึ่งก็เจอว่ายังไม่มา … ก็ไม่แปลกเพราะไปค่อนข้างเช้า เอาวะยังไม่มาก็ไม่เป็นไร เดินไปหาอะไรกินก่อนแล้วกัน บรรยากาศข้างตึกค่อนข้างดี เขียวชอุ่ม โรงอาหาร (Bistro) ที่นี่ก็หรูหรา ดูดี ไม่ใช่ที่กินข้าวใต้ตึกเหมือนที่ออฟฟิต แต่ความไฮโซแบบฝรั่งก็แลกกับอาหารแบบฝรั่งเพราะมีแต่อาหารฝรั่ง และเปิดอยู่ร้านเดียว ไปยืนดูเมนูซักพักก็สั่ง Burrito ซึ่งเป็นอาหาร Mexican มากิน ซึ่งก็ดีกว่าที่โรงแรมนิดหน่อยเพราะเบื่ออาหาร American แล้ว ใน bistro นี้เป็นร้านจับจ่าย คือ จับของที่จะกินมาใส่ถาด แล้วไปจ่ายตังที่เคาน์เตอร์คิดตัง รวมกันเป็น ร้านจับจ่าย.. มุกนี้ งืดแน่เลย T__T


หน้าตามื้อเช้าที่แสนธรรมดา ราคาประหยัด [Burrito ไข่ แฮม กับ น้ำผลไม้]

วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ตอนที่ 7 Sunday วันชิว ๆ ก่อนทำงาน

ไม่น่าจะเชื่อจะมาถึงตอนที่ 7 ได้ ซึ่งอาจมาจากผลบุญที่ ทีวีไม่มีอะไรดู(ช่องเยอะ แต่ตูดูไม่รู้เรื่อง) เมืองไม่มีอะไรเที่ยว(ไม่มีรถไปไหนก็ไม่ได้) ช็อปปิ้งไม่เป็น(จริง ๆ ไม่มีตัง) เน็ตก็เล่นได้แค่ตอนแบกคอมไปที่มอลล์(ที่โรงแรมมีให้แต่เสือกทำไม่เป็นเอง) ก็เลยมีเวลามานั่งเขียนไร้สาระตรงนี้(แอบมีสาระจิ๊ดนึง) เอาหล่ะเกริ่นนำตอนพอแล้วได้เวลาเข้าเรื่องซักที...

วันนี้เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่แสนสดใส ตื่นมาตอน 6 โมงเช้า ตามสุขลักษณะที่ดีของเด็กอนามัย วันนี้ตั้งใจแน่วแน่ว่า ข้าวเช้าต้องหาข้าวกินให้ได้ จากการเดินสำรวจเมื่อวานนี้ ร้านอาหารที่มีข้าวให้กินแถวนี้ ก็หนีไม่พ้นอาหารจีนถาดหลุม(ข้าวราดแกงเวอร์ชั่นเมืองนอก) และก็ดันมีแต่ในห้างนั่งเอง ซึ่งปกติแล้วห้างสรรพสินค้าก็ไม่น่าจะเปิดก่อน 10 โมงเช้า ขณะนี้เวลาก็เพิ่ง 6 โมงเช้าเท่านั้นเอง เมื่อคิดได้เช่นนั้นก็เลย นอนกลิ้งไปมาต่อ เพื่อรอเวลา ผ่านไปพักใหญ่ ก็เริ่มรู้ตัวว่านอนไม่หลับแล้ว ก็เลยลุกขึ้นจากเตียง ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปเล่นฟิตเนสดีกว่า ซึ่งโชคดีที่ว่าฟิตเนสนั้นอยู่ชั้นเดียวกัน(ชั้น 5) เลยไม่ต้องรอลิฟท์ให้เบื่อ (ลิฟท์ที่นี่แอบช้า สงสัยคนเยอะ)

วันนี้เล่นฟิตเนสค่อนข้างนานกว่าปกติ เล่นไปเกือบชั่วโมงแหนะ เล่นซะเหงื่อชุ่มเลย หลังจากเล่นเสร็จก็ลากสังขาร กลับห้องมาที่ห้องอาบน้ำ เสร็จแล้วก็นอนกลิ้งไปมารอเวลาห้างเปิด

ณ เวลา 10 โมงเช้า ก็ถึงเวลาออกตัวเพื่อไปหาข้าวกินพร้อมกับไม่ลืมหนีบคอมไปด้วย พอเดินไปถึงที่ห้าง ก็ต้องพบกับความผิดหวังเพราะร้านอาหารจีน ยังไม่เปิดให้บริการ ใจนึงก็อยากรอแต่พุงน้อย ๆ ก็บอก

"กูหิวข้าวแล้วนะ รีบหาอะไรกินก่อนกูจะเหวี่ยง"

เนื่องจากกลัวพุงน้อยจะเหวี่ยง และร้านที่เปิดก็มีแค่ Subway, Sonic แล้วก็ Mc ซึ่งตัวเลือกค่อนข้างจำกัด เลยตรงดิ่งไปสั่ง Subway มากิน ด้วยอาการหิว+ลืมตัว เลยเผลอกินจนเสร็จแล้วเพิ่งนึกออก ตายหล่ะหว่า ลืมถ่ายรูป ก็งืดไปหนึ่งมื้อ =__= แต่พุงน้อยอารมณ์ดีขึ้น

ที่บริเวณชั้นใต้ดินบริเวณนั้นมีลานไอซ์สเก็ตด้วย วันนี้เหมือนมีงานประกวดอะไรซักอย่าง ก็เลยมีการแสดงโชว์ของเด็ก ๆ ก็จัดเต็มพอสมควร คนดูไม่เยอะมาก แต่ละคนเล่นได้ดี ก็แอบเก็บภาพบรรยากาศมาให้ดู ซึ่งก็ทำให้อรรถรสในการกินข้าวดีขึ้นด้วย


บรรดาแม่(ยก)ของเหล่านักเสก็ต

บรรยากาศรอบ ๆ