วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ครึ่งคึ่ง กลางกาง กับ ความเหงาติด ๆ ดับ ๆ

เคยไหมครับที่อยู่ดี ๆ ก็เหงาขึ้นมาซะอย่างนั้น... คิดว่าคนส่วนมากน่าจะมีอารมณ์แบบนี้แว๊บเข้ามาในหัวบ้าง ส่วนความถี่นั้ันก็คงแล้วแต่คน  วันนี้เป็นวันที่อารมณ์เข้าข่ายประมาณว่าอยู่ดี ๆ ก็เหงา คือที่จริงตอนแรกนัดเพื่อนไปหาซูชิกินกัน เพราะเกิดอาการอยากกินขึ้นมาเฉย ๆ พอนัดกันซะดิบดี ดันโดนเพื่อนเบี้ยวนัด เนื่องจากมันไข้ขึ้นเพราะกินเหล้าเยอะ แผนที่วางไว้เลยล่มไป อันจะไปนั่งกินคนเดียวที่ร้านที่เล็งไว้ก็จะเปลี่ยวเกิน ก็เลยเปลี่ยนจากโออิชิ แกรนด์เป็นชาบูชิใกล้บ้านแทน เพราะไปกินคนเดียวประจำ ตอนแรกก็กินธรรมดาไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอถึงตอนนั่งกินไอติมทอดอารมณ์ มองไปรอบตัวก็เกิดอารมณ์เหงาขึ้นมาเฉยเลย แถมมีเพลงคลอไปด้วย อารมณ์มันเลยคละคลุ้งขึ้นมา เพลงอะไรไม่รู้แต่เดาว่าเป็นเพลงญี่ปุ่นถึงไม่รู้เนื้อร้องแต่พอทำนองฟังแล้ว เราก็รู้สึกบางอารมณ์จับจิต อารมณ์ที่ว่าเป็นความเหงาท่ามกลางผู้คนมากมาย นี่แหละมั้งที่ทำให้เพลงเหงาทั้งหลายทั้งปวงยังขายดี ก็เพราะมีคนที่เหงาเป็นโรคเหงาติด ๆ ดับๆ อย่างเรานี่เอง...

ความเหงานี่ก็แปลกนะมาไม่เลือกเวลาและสถานที่ มาแล้วก็ไป มา ๆ หาย ๆ ติด ๆ ดับ ๆ บางคนมาแล้วอาจอยู่ด้วยกันพักใหญ่ บางคนมาได้ไม่นานก็ไปต่อ แต่ทุกคนต้องเจอแน่นอน ส่วนจะทักทายและอยู่ด้วยกันอย่างไรก็คงอยู่ที่ใจคนนั้นแหละ ว่ามองความเหงาเป็นยังไง ส่วนผมความเหงามาเร็วไปเร็วเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา ผ่านมาทีก็ทำให้อารมณ์พลุกพล่าน แล้วก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว   สำหรับบางคนอารมณ์เหงาเพียว ๆ มันไม่โดนใจพอ ต้องหาเพลงเหงามาฟังเพิ่มเพื่อกระตุ้นความเหงา ซึ่งบางคนฟังแล้วดี บางคนฟังแล้วทรุด แต่สุดแล้วคุณก็เลือกที่จะฟังมันอยู่ดีใช่ไหมครับ... บ่นซะยาวเหยียดที่จริงก็ไม่มีอะไรมาก ก็แค่ผมรู้สึกเหงามือและหัวเท่านั้นเอง ก็เลยหาทางระบายเหงา ผ่านทางนี้ออกมา..........แล้วคุณหล่ะ รู้สึกอย่างนี้บ่อยแค่ไหน ติด ๆ ดับ ๆ อย่างผม หรือว่า นอนกอดกันทุกค่ำคืน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น