สวัสดียามเช้า ค่ำคืนแรกในเวียดนามผ่านไปได้ด้วยดี นอนหลับสนิทด้วยความที่ Time Zone เดียวกันกับเมืองไทยทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา ว่าแล้วก็ได้เวลารับประทานอาหารเช้าของทางโรงแรม ก่อนที่เราจะได้นั่งรถจนตูดแฉะ มื้อเช้านี้ก็เป็นบุฟเฟต์ แถมมีเฝอให้ชิมด้วย
|
อาหารมีทั้งคาวหวาน มุมอื่นคนเยอะ เลยถ่ายมุมผลไม้ละกัน |
|
เฝอมาแบบกึ่งสำเร็จรูป เติมน้ำก็กินได้เลย |
กินมื้อเช้าเสร็จก็ได้เวลาขึ้นรถเพื่อเดินทางสู่จังหวัด
ฟานเทียด ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง เพราะที่นี่จำกัดความเร็ว ระหว่างนี้ก็ได้ทดสอบ Free-WiFi บนรถบัสด้วย ซึ่งเน็ตค่อนข้างเร็วและเสถียรดี แต่ไม่ค่อยได้เล่นอะไรเยอะ กลัวแบตหมด นั่งชมวิวกับอ่านหนังสือดีกว่า แต่หลัก ๆ คือนอน
ระหว่างเดินทางก็มาดูข้อมูลซักหน่อย
จังหวัดฟานเทียด (Phan Thiet) เป็นเมืองตากอากาศและยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามมีชื่อเสียงของประเทศเวียดนาม ทั้งชายทะเลยที่สวยงาม และยังมีชื่อในมนต์เสน่ห์แห่งทะเลทรายตะวันออก... เนื่องจากเป็นการเดินทางระยะไกลก็มีการแวะจุดพักรถ เพื่อให้คนขับพัก ส่วนคนนั่งก็ได้เดินยืดเส้น ยืดสาย เข้าห้องน้ำ แล้วก็หาอะไรกิน
|
บรรยากาศดูต่างจากบ้านเรานัก |
ประมาณเที่ยงก็เดินทางมาถึง จากนั้นก็แวะกินมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารริมทะเล มื้อนี้มีอาหารทะเลให้กิน รสชาติโอเคนะ แต่อาหารโดยรวมน้อยไปหน่อย หรือว่าเรากินเยอะเองหว่า
|
ที่เห็นบนโต๊ะ อยู่ในท้องหมดแล้ว |
|
ร้านอยู่ติดทะเล สามารถชมวิวได้จากที่ระเบียงของร้าน |
กินเสร็จก็เดินทางไปยังจุดเที่ยวแห่งแรกของวัน ก็คือ
Fairly Stream ลำธารน้ำไหลสีแดงทางธรรมชาติ มีเนินทรายสวยงามเป็นวิวขนาบข้าง เนินทรายแถบนี้ถูกกัดเซาะโดยน้ำและลม ทำให้สามารถเห็นชั้นดินที่สูงลดหลั่นกันรวมถึงสีที่แตกต่างกัน ทางเดินเป็นการลุยน้ำตื้น ๆ เหมือนตอนน้ำท่วม แต่ต่างกันที่น้ำที่นี่ใสและดูสะอาด ทรายนุ่มละเอียดเนียนเท้าดี น้ำไม่เย็นมากแต่กำลังสบาย ช่วยให้คลายร้อนจากอากาศได้ เป็นการเดินชมที่ให้ความรู้สึกชิวมาก
|
ทางเดินมีน้ำและทราย เดินเนียนสบายเท้า |
|
สวยสู้แดด ใครไม่แกร่ง เป็นต้องเกรียม |
กลับมาถึงรถก็ได้เวลาเดินทางไปยัง
ทะเลทรายมุยเน่ (Mui Ne) มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ คือ
Red and White Sand Dunes ซึ่งก็คือทะเลทรายสีแดง และ ทะเลยทรายสีขาว โดยจุดแรกที่เราจะไป ซึ่งห่างไปประมาณ 40 นาที ก็คือ
ทะเลทรายขาว(White Sand Dune) ทะเลทรายสีขาวที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ให้บรรยากาศเหมือนไปเยี่ยมชมทะเลทรายซาฮารา
|
แวะถ่ายภาพกองทัพเรือประมงซักหน่อย |
เมื่อมาถึงทะเลทรายขาว ก็พบกับดินแดนแห่งทรายกว้างใหญ่ ระดับที่เดินไม่ทั่ว ดังนั้นเพื่อความสะดวกจึงออฟชั่นให้เลือกเที่ยวได้ 2 แบบคือ
- เหมารถจี๊ป นั่งได้ประมาณ 4-5 คน ราคา 600,000 ดอง หรือประมาณ 1 พันบาท (1 ชั่วโมง)
- เช่า ATV ไปได้ 2-3 คน ราคา 900,000 ดอง หรือประมาณ 1500 บาท (30 นาที)
พอดีบิดาเกิดมีความอยากซิ่ง ก็เลยจัด ATV เลย เพราะเราจะได้ขี่เองด้วย ก่อนออกตัวก็มีสอนเทคนิคการบังคับนิดหน่อย แต่ไม่ต้องกังวลเพราะพี่เจ้าของรถ(ของเรียกพี่แว๊น ละกัน)ติดมาด้วย เพิ่งรู้ว่าการขี่บนทรายค่อนข้างยาก เพราะล้อจมลงในทรายทำให้แฮนด์เราหันไปตามความเอียงของล้อ ดังนั้นถ้าอยากให้ไปในทิศทางที่ต้องการ เราต้องเกรงแขนไม่งั้นไหลออกข้างแน่นอน กว่าจะขี่ทุลักทุเลขึ้นยอดทรายได้ก็เล่นเอาเมื่อยเหมือนกัน ดีที่พี่แว๊นช่วยประคองแฮนด์ทำให้ไปได้ตามเส้นทาง พอถึงสถานที่ก็ลงรถแล้วถ่ายรูป
|
ทะเลทรายกว้างและใหญ่มาก ไอ้ที่เห็นจุดดำ ๆ หน่ะ คนกับรถ |
|
สุดขอบทะเลทรายเป็นน้ำ สันทรายที่ยืนอยู่ก็สูงมาก คาดว่ากว่าจะกลิ้งถึงพื้นน้ำคงหลายวิอยู่ |
|
จุดดำ ๆ ไกล ๆ คือจุดแรกที่จอดและเป็นจุดที่พี่แว๊นพาซิ่งทิ้งตัวกับเนินที่ชันเกือบ 90 องศา ความรู้สึกคือไม่ใช่พื้นเอียง แต่มันคือเหวชัด ๆ |
ถ่ายพอหอมปากหอมคอ พี่แว้นก็บอกว่ามาซ้อนท้ายมะ เดี๋ยวพาซิ่ง ไอ้เราก็ไม่รู้อะไร พี่แกถามโอเคมั้ย เราก็พยักหน้าหงึก ๆ ว่าแล้วพี่แกก็พาลงเนินทราย ซึ่งให้อารมณ์เหมือนนั่งรถไฟเหาะตีลังกา ต่างกันที่อันนั้นมีตัวล็อค อันนี้ต้องเอามือเกาะเบาะเอาเอง บอกเลยว่าหวาดเสียวมาก แต่เนินหลัง ๆ ก็ลดความเสียวลงนิดนึง แต่ก็ยังรู้สึกน่ากลัวเหมือนเดิมเพราะโคตรสูงเลย... ซึ่งการพาซิ่งตะลุยขึ้นลงเนินทรายนี่น่าจะเป็นกิจกรรมพิเศษเฉพาะเช่า ATV รถจี๊ปก็พอลงเหมือนกันแต่ไม่ชันและเร็วเท่า.... ขากลับก็มีโอกาสได้ขับกลับเองอีกครั้ง รู้สึกว่าขับง่ายขึ้นนิดนึง เพราะพอจับจังหวะได้แล้ว แต่ก็ยังต้องเกร็งแขนมากอยู่ดี อ้อ อีกอย่าง ร้อนขามากกกกก เพราะเครื่องยนต์ระบายความร้อนที่ขาพอดี เหมือนเอาขาไปอังกระทะไว้ ถ้าไปเผลอแตะหนังคงหลุดมาเลย
|
โฉมหน้าพี่แว๊นของเราที่พาซิ่ง |
เพิ่มเติม ที่นี่ลมแรงมาก อย่าลืมแว่น แถมทรายเข้าหัวเข้าเสื้ออย่างมาก สาว ๆ ควรหาผ้าปิดผม ไม่งั้นกลับโรงแรมได้สระผมแน่นอน
กลับมาถึงจุดแรกด้วยสภาพเมื่อยแต่สนุก ทะเลทรายสวย ให้ความรู้สึกอลังการมาก คือสามารถถ่ายรูปแบบทะเลทรายเวิ้งว้าง ไม่เห็นอย่างอื่นเลย.... หลังจากนั่งพักได้พักนึงก็ได้เวลาขึ้นรถเพื่อขับกลับเข้าเมือง เพื่อไปยังที่เที่ยวสุดท้ายของวัน นั่นก็คือ
ทะเลทรายแดง (Red Sand Dune)
หลับได้ตื่นนึงก็มาถึง ทะเลทรายแดงอยู่ฝั่งหนึ่งของถนน ส่วนอีกฟากถนนก็เป็นร้านกาแฟ ที่มีเปลญวนให้เรานอนแก้เมื่อยได้ ก่อนไปตะลุยทะเลทรายก็ขอเติมพลังด้วยกาแฟดริฟสไตล์เวียดนามซักหน่อย กาแฟไม่ขมมาก สามารถกินได้อร่อย แต่คนที่ไม่ชอบขมเขาก็ให้น้ำตาลมาให้อีกแก้วนะ
|
กาแฟดริฟสไตล์เวียดนาม |
พอจิบกาแฟเสร็จก็ไปเดินเล่นที่ทะเลทรายแดงซักหน่อย ที่นี่มีแผ่นกระดานแข็งไว้ให้สไลด์ทรายเล่นด้วย แต่ด้วยความเมื่อยสะสมก็เลยไม่ได้เช่า(ซึ่งคิดถูกแล้วที่ไม่เช่า) ก่อนที่จะได้ชมทะเลทรายแดง เราก็ต้องเดินขึ้นเนินก่อน บอกเลยว่าเมื่อยพอสมควร เมื่อขึ้นมาถึงด้านบนแล้ว เราก็จะพบทะเลทรายสีแดงที่สวยงาม ทรายมีความละเอียดเนียนเท้า ตอนนี้ก็บ่ายแก่ ๆ แล้วแต่ทรายไม่ร้อน ทำให้สามารถถอดรองเท้าเดินเล่นได้ เดินชิวไปมา มองคนอื่นเล่นสไลด์ทรายดูท่าทางน่าสนุก แต่ก็น่าจะเมื่อยเหมือนกัน เพราะต้องเดินปีนขึ้นมาเพื่อสไลด์ทรายต่อ เดินชิว ๆ ทอดน่องจนถึงเวลา ก็เดินกลับไปขึ้นรถ
|
คนค่อนข้างเยอะ พื้นที่แคบกว่าทะเลทรายขาวเยอะ จึงพอเดินเล่นเองได้ ไม่ต้องง้อรถ |
|
ดูน่าสนุก แต่ทรายหนืดเอาเรื่อง บางคนเห็นค้างเติ่งบนเนิน |
|
พวกขยันเดินไปซะไกล จะเดินตามก็เมื่อยเกิน ได้แต่ยืนชมไกล ๆ |
|
ฟากตรงข้ามเป็นที่จอดรถกับร้านกาแฟ ใครอยากชมทรายแดงก็ต้องออกแรงหน่อย |
จากนั้นรถทัวร์ก็นำพาไปยังร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลเพื่อกินข้าวเย็น มื้อนี้ก็ฟาดเรียบหมดโต๊ะอีกเช่นเคย รู้สึกแอบสงสารเพื่อนร่วมโต๊ะซะแล้วสิ เอาน่าทนอีก 2 วันเองเนอะ
|
มีอะไร เราก็กินจนหมดโต๊ะ |
ท้องอิ่มก็ได้เวลากลับโรงแรม โรงแรมคืนนี้ก็คือ
Tien Dat Resort นี้บรรยากาศสวยใกล้ทะเล(แต่มองไม่เห็นนะ ต้องพักอีกฟากนึงของถนน) มีสระว่ายน้ำด้วยแต่ขี้เกียจทำอะไรละ ราตรีสวัสดิ์ละกัน
|
เตียงดูนอนสบาย ห้องมีพื้นที่พอสมควร |
|
ห้องน้ำสะอาดดี ได้มาตราฐานครับ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น