วันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2560

2017 สงกรานต์ ทริป: เวียดนามใต้ โฮจิมินห์ มุยเน่ ดาลัด Day 1

ในตอนแรกสงกรานต์นี้ว่าจะไม่ไปเที่ยวไหน เพราะเบื่อกับการขึ้นเครื่องรอบดึก และการเบียดแย่งกิน-เที่ยวกับคนอื่น ๆ แต่สุดท้ายแล้ว ก็เกิดเปลี่ยนใจในสัปดาห์สุดท้ายก่อนสงกรานต์ จนบังเกิดทริปเร่งด่วนที่ตัดสินใจอย่างรวดเร็วใน 2 วัน โดยทริปที่เลือกไปในครั้งนี้ก็คือ เวียดนามใต้ โฮจิมินห มุยเน่ ดาลัด 5 วัน 4 คืน เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ไปเวียดนาม แอบตื่นเต้นนะนี่ แถมมีเพื่อนบอกว่าสาวเวียดนามน่ามอง หุหุ

สำหรับทริปนี้เริ่มต้นด้วยการนัดรวมตัวลูกทัวร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 9 โมงเช้า โดยเราจะอาศัยสายการบิน VietJetAir ในการเดินทางในครั้งนี้ด้วยไฟล์ท VZ972 BKK-SGN 11:30-13:00น.

ตอนแรกที่อ่านรายการทัวร์ คิดว่ามื้อเที่ยงจะได้กินบนเครื่อง แต่ปรากฏว่าคิดผิด เพราะ VietJetAir เป็น low-cost แอร์ไลน์ ดังนั้นจึงไม่อาหาร หรือน้ำ เหมือนหางแดง AirAsia บ้านเราแหละ

ประมาณบ่ายโมงก็มาถึงสนามบิน ตัน เซิน นึก (Tan Son Nhat International Airport) / ( SGN) ที่ นคร โฮจิมินห์ จากนั้นก็ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมเอากระเป๋า พอออกมากันครบทุกคนก็ได้เวลาหัวหน้าทัวร์จัดการเรื่องรถ กว่าจะจัดการขนกระเป๋า อพยพขึ้นรถ ล้อก็หมุนตอนบ่าย 2 พอดี หมดไปครึ่งวันกว่า ๆ แล้วสินะ

รถทัวร์ของเราเดินทางไปสู่ใจกลางมหานครโฮจิมินห์ เป็นกึ่ง ๆ city tour ที่เราจะได้นั่งรถชมเมือง ระหว่างเดินทางไปยังสถานที่เที่ยวแห่งแรก อาคารต่าง ๆ ที่พอมีอายุหน่อย ในเมืองนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส สองข้างถนนยังมีต้นไม้ให้ความร่มรื่น รวมไปถึงสวนกลางเมือง... ทำเอาแอบอิจฉาในความเขียวขจีของเมืองนี้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสมองและสัมผัสถึงการจราจรในนครโฮจิมินห์แห่งนี้อีกด้วย

เดินทางได้ซักพัก็มาถึง ทำเนียบประธานาธิบดี (The Independence Palace) สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ใช้เป็นกองบัญชาการทหารสถานที่ประชุมผู้นำคนสำคัญและนำชมห้องบัญชาการลับต่าง ๆ ซึ่งใช้เวลาในการเดินชมประมาณ 1 ชั่วโมง เดินชมห้องต่าง ๆ พร้อมข้อมูลเกร็ดความรู้ จากไกด์ท้องถิ่นชาวเวียดนาม ผู้คร่ำหวอดในวงการมานาน แถมพูดไทยชัดแจ๋ว เลยฟังได้ไม่เบื่อ

ปูลู ผมขอย่อคำว่า ประธานาธิบดี เป็น ปธน. นะครับ
บรรยากาศภายนอกดูยิ่งใหญ่ และร้อนมากกก
ห้องนี้คือ National Security Council Chamber สำหรับให้ ปธน. ปริกษากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้แนะนำจาก US
Presidential Office หรือ ออฟฟิศของ ปธน. นั่นเอง
ห้องนี้เหมือนจะลืมถ่ายชื่อห้องมา เลยไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร
Ambassadors Chamber หรือห้องที่คุยเกี่ยวกับการฑูต
ทางเดินใน Bunker ใต้ดินของอาคาร ถ่ายแบบไม่มีคน ก็แอบหลอนเนอะ
Communications หรือห้องสำหรับติดต่อสื่อสาร ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น

เดินชมห้องต่าง ๆ จนครบ (แต่ถ่ายมาไม่ครบนะกลัวไปเที่ยวแล้วจะไม่เพลิน) ก็ได้เวลากลับไปขึ้นรถตากแอร์ ด้วยสภาพหลังเปียก อากาศที่นี่พอ ๆ กับที่เมืองไทย
อีกหนึ่งความประทับใน ทำเนียบประธานาธิบดี ต้นไม้ใหญ่มากกกกก

เป้าหมายต่อไปในการเดินทางคือ โบสถ์นอร์ทเทรอดาม (Saigon Notre-Dame Cathedral) โบสถ์หลังคาสูงที่สร้างในสมัยเวียดนามยังอยู่ในอาณานิคมของฝรั่งเศส โดยสร้างเพื่อให้เป็นโบสถ์ประจำเมืองไซง่อนและได้สร้างตามต้นแบบของประเทศฝรั่งเศส และ ที่ทำการไปรษณีย์ (Saigon Central Post Office) ที่ใหญ่และสวยที่สุดของเวียดนาม เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ได้เยี่มชม เป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตกได้อย่างลงตัว ทั้งสองที่นี้อยู่ตรงข้ามกันจึงแวะจอดทีเดียวชมได้สองที่
ลงรถปุ๊บก็ถ่ายรูปที่ทำการไปรษณีย์ (Saigon Central Post Office) ที่อยู่ตรงข้ามซะเลย

เมื่อรถจอดสิ่งแรกที่ทำก็คือ ตรงดิ่งไปยัง McDonald เพราะเล็งตั้งแต่ก่อนลงจากรถแล้ว ตอนนี้ก็บ่ายแก่ ๆ แล้ว อาหารมื้อแรกและมื้อเดียวก็คือมื้อเช้า แถมมื้อเย็นหัวหน้าไกด์บอกกินบนเรือ ประมาณ 2 ทุ่ม บอกเลยว่าไส้ขาดพอดี ไม่พูดพร่ำทำเพลง ใครอยากชมอะไรก็ชมไป ส่วนผมของจัดการกับเบอร์เกอร์ก่อนละกัน

เมื่อพลังงานได้รับ ก็ได้เวลาชมสถานที่ ว่าแล้วก็ข้ามถนนเพื่อเดินไปยังโบสถ์นอร์ทเทรอดาม เมื่อไปถึงประตู ก็พบว่าโบสถ์ปิดไม่ให้คนเข้า บอกเลยว่าเซ็ง ก็ได้แต่ทำใจ ถอยออกมาจะถ่ายโบสถ์ก็ย้อนแสง จะไปถ่ายรูปปั้นหน้าโบสถ์ก็ย้อนแสง เออไม่เป็นไรข้ามไป ที่ทำการไปรษณีย์ก็ได้
ด้านหน้าของโบสถ์มีรูปปั้นของพระแม่มารี(มั้ง?) ถ่ายด้านหน้าไม่ได้ย้อนแสง
โบสถ์นอร์ทเทรอดาม มีความใหญ่โตมาก ขนาดข้ามมาฟากตรงข้ามแล้วยังเก็บได้ไม่หมดเลย

หลังจากถ่ายรูป เดินชมภายในอาคาร ก็แวะสู่โซนขายสินค้าซักหน่อย ทางเดินค่อนข้างแคบและร้อน เดินได้นิดหน่อย ก็ถอยออกมานอกอาคาร เดินชมผู้คนแทน เดินไปมาได้ซักพัก รถทัวร์ก็มารับและได้เวลาเดินทาง
บรรยากาศภายใน ที่ทำการไปรษณีย์ ชุลมุนวุ่นวาย จุดที่ขายของจะเป็นซอยแถว ๆ ทางเข้าครับ

จุดหมายต่อไปคือ ช็อปปิ้งเพลิน ๆ แบบอิสระ ที่ ตลาดเบนถัน (Ben Thanh Market) ตลาดพื้นเมืองพลุกพล่านของนครโฮจิมินห์ สามารถเลือกซื้อสินค้าของฝาก ของทีระลึก และ สินค้าพื้นเมือง ที่นี่รับเงินไทยด้วยนะ พ่อค้าแม่ค้าบางคนก็พูดไทยได้ด้วย จริง ๆ แล้วพูดได้หลายภาษาและภาษาไทยเป็นหนึ่งในนั้น
ดูเหมือนวุ่นวายซับซ้อน แต่จริง ๆ เดินง่ายครับ ตลาดเป็นสี่เหลี่ยม ค่อย ๆ เลาะเอา
ตลาดที่นี่ ถ้าสกิลต่อราคาไม่ถึง โดนฟันหัวแบะแน่นอน

หลังจากช็อปปิ้งอย่างดุเดือดในตลาด ก็ได้ของติดมือมานิดหน่อยเป็น Almond แบบมีเปลือก และ กาแฟกล่องของ Nescafe เมื่อเดินมาถึงหน้าตลาดก็เจอยายคนหนึ่งขายอะไรซักอย่าง ก็เลยไปมุงและอุดหนุนซักหน่อย ด้วยความที่ยายไม่พูดภาษาอังกฤษทำให้เกือบอดกิน ยังดีที่ลูกค้าของยายช่วยแนะนำ ทำให้ได้กินอาหารเวียดนามในที่สุด

ขึ้นรถแล้วก็ไปชมการแสดง ระบำตุ๊กตาน้ำ (Water Puppet Show of Vietnam) ศิลปกรรมประจำชาติ เอกลักษณ์ของประเทศเวียดนามและมีแห่งเดียวในโลก ชมความสามารถในการเชิดหุ่นกระบอก (เชิดจากในน้ำ ผสมผสานกับเสียงบรรเลงของเครื่องดนตรีเวียดนามและพากย์สด ๆ ของคณะละคร) นำเสนอเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ประเพณีและวัฒนธรรมของชาวเวียดนาม มาถึงโรงละครค่อนข้างไว ยังไม่ถึงเวลาแสดง บรรยากาศก็เงียบ มืด และเย็น จึงเกิดอาการแอบงีบไปนิดหน่อย แต่พอการแสดงเริ่มก็ตื่นเพราะเสียงดังมากเลย ก็เลยตื่นมาดูโชว์จนจบ การแสดงประมาณ 1 ชั่วโมงครับ

จุดหมายต่อไปคือ ไปล่องเรือตามแม่น้ำไซง่อนในยามค่ำคืน สัมผัสบรรยากาศโรแมนติก และความสวยงามของ 2 ฟากฝั่งแม่น้ำยามค่ำคืน เคล้าคลอด้วยเสียงดนตรีพื้นเมืองของเวียดนาม นั่นคือสิ่งที่คิด แต่ความเป็นจริง คือ เรือสามชั้นที่เมื่อขึ้นเรือแล้ว เราก็กิน คือ กินจริงจังมาก กินจนอาหารหมดแทบทุกอย่าง ทุกคนในทัวร์หิวจริงจัง เมื่อกินเสร็จเงยหน้าจากอาหาร โชว์ก็จบละ เอิ่ม....มันแสดงอะไรไปฟะ ไม่เป็นไรยืนข้างเรือชมวิวก็ได้ ยังโชคดีที่ได้โต๊ะทางกราบเรือ ถ้าได้โต๊ะกลางเรือคงลำบากหาจุดยืนชมวิว
เรือมีขนาดใหญ่พอสมควรเลย
ไม่รู้ว่าอาหารอร่อย หรือหิว รู้แต่ว่าคลีนมากมื้อนี้ แทบไม่ต้องล้างจานเลย
โชคดีที่ได้นั่งข้างหน้าต่าง เลยสามารถชมวิวภายนอกได้
บรรยากาศภายนอกสวยดี เสียดายกล้องมือถือถ่ายภาพแสงน้อยได้ไม่ค่อยดี ภาพเลยไม่ค่อยสวย
ELISA เรือลำใหญ่ยักษ์ที่ถูกดัดแปลงกลายเป็นโรงแรม เนื่องจากสูงเกินกว่าจะอนุญาตให้แล่นได้

ระหว่างนั่งรถกลับไกด์ท้องถิ่นชี้ให้ดูร้านตัดผมที่มีสาวนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งอยู่ พร้อมแนะแนวทำนองว่า ท่านใดสนใจสามารถตัดผมได้ ถ้าคุยถูกคอตัดในร้านเสร็จมีบริการเสริมนอกร้านต่อด้วยนะเออ น่าเสียดายที่บอกช้าไปนิดเลยถ่ายรูปไม่ทัน ชื่อร้านก็ไม่รู้ แล้วจะมาถูกไหม ห๊าาาาาาาาา

กว่าจะถึงโรงแรมก็เกือบ 4 ทุ่ม คืนนี้ก็นอนที่ LE DUY HOTEL รับกุญแจลากกระเป๋าเข้าห้อง อาบน้ำ แล้วก็ล้มตัวนอน ช่างเป็นวันเที่ยวที่ยาวยืดดีทีเดียว
เตียงนอนดูนุ่มสบาย เที่ยวมาทั้งวัน ล้มไปก็สลบแน่นอน
ห้องน้ำดูสะอาดดี มีการแบ่งเป็นสัดส่วน อ่างอาบน้ำสูงไปนิด ตอนก้าวขาระวังสะดุดละกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น