ในตอนแรกสงกรานต์นี้ว่าจะไม่ไปเที่ยวไหน เพราะเบื่อกับการขึ้นเครื่องรอบดึก และการเบียดแย่งกิน-เที่ยวกับคนอื่น ๆ แต่สุดท้ายแล้ว ก็เกิดเปลี่ยนใจในสัปดาห์สุดท้ายก่อนสงกรานต์ จนบังเกิดทริปเร่งด่วนที่ตัดสินใจอย่างรวดเร็วใน 2 วัน โดยทริปที่เลือกไปในครั้งนี้ก็คือ
เวียดนามใต้ โฮจิมินห มุยเน่ ดาลัด 5 วัน 4 คืน เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ไปเวียดนาม แอบตื่นเต้นนะนี่ แถมมีเพื่อนบอกว่าสาวเวียดนามน่ามอง หุหุ
สำหรับทริปนี้เริ่มต้นด้วยการนัดรวมตัวลูกทัวร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิเวลา 9 โมงเช้า โดยเราจะอาศัยสายการบิน VietJetAir ในการเดินทางในครั้งนี้ด้วยไฟล์ท VZ972 BKK-SGN 11:30-13:00น.
ตอนแรกที่อ่านรายการทัวร์ คิดว่ามื้อเที่ยงจะได้กินบนเครื่อง แต่ปรากฏว่าคิดผิด เพราะ VietJetAir เป็น low-cost แอร์ไลน์ ดังนั้นจึงไม่อาหาร หรือน้ำ เหมือนหางแดง AirAsia บ้านเราแหละ
ประมาณบ่ายโมงก็มาถึง
สนามบิน ตัน เซิน นึก (Tan Son Nhat International Airport) / ( SGN) ที่ นคร โฮจิมินห์ จากนั้นก็ผ่านการตรวจคนเข้าเมือง พร้อมเอากระเป๋า พอออกมากันครบทุกคนก็ได้เวลาหัวหน้าทัวร์จัดการเรื่องรถ กว่าจะจัดการขนกระเป๋า อพยพขึ้นรถ ล้อก็หมุนตอนบ่าย 2 พอดี หมดไปครึ่งวันกว่า ๆ แล้วสินะ
รถทัวร์ของเราเดินทางไปสู่ใจกลางมหานครโฮจิมินห์ เป็นกึ่ง ๆ city tour ที่เราจะได้นั่งรถชมเมือง ระหว่างเดินทางไปยังสถานที่เที่ยวแห่งแรก อาคารต่าง ๆ ที่พอมีอายุหน่อย ในเมืองนี้มีรูปแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส สองข้างถนนยังมีต้นไม้ให้ความร่มรื่น รวมไปถึงสวนกลางเมือง... ทำเอาแอบอิจฉาในความเขียวขจีของเมืองนี้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสมองและสัมผัสถึงการจราจรในนครโฮจิมินห์แห่งนี้อีกด้วย
เดินทางได้ซักพัก็มาถึง
ทำเนียบประธานาธิบดี (The Independence Palace) สถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ใช้เป็นกองบัญชาการทหารสถานที่ประชุมผู้นำคนสำคัญและนำชมห้องบัญชาการลับต่าง ๆ ซึ่งใช้เวลาในการเดินชมประมาณ 1 ชั่วโมง เดินชมห้องต่าง ๆ พร้อมข้อมูลเกร็ดความรู้ จากไกด์ท้องถิ่นชาวเวียดนาม ผู้คร่ำหวอดในวงการมานาน แถมพูดไทยชัดแจ๋ว เลยฟังได้ไม่เบื่อ
ปูลู ผมขอย่อคำว่า ประธานาธิบดี เป็น ปธน. นะครับ
|
บรรยากาศภายนอกดูยิ่งใหญ่ และร้อนมากกก |
|
ห้องนี้คือ National Security Council Chamber สำหรับให้ ปธน. ปริกษากับเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้แนะนำจาก US |
|
Presidential Office หรือ ออฟฟิศของ ปธน. นั่นเอง |
|
ห้องนี้เหมือนจะลืมถ่ายชื่อห้องมา เลยไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร |
|
Ambassadors Chamber หรือห้องที่คุยเกี่ยวกับการฑูต |
|
ทางเดินใน Bunker ใต้ดินของอาคาร ถ่ายแบบไม่มีคน ก็แอบหลอนเนอะ |
|
Communications หรือห้องสำหรับติดต่อสื่อสาร ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่สงบเกิดขึ้น |
เดินชมห้องต่าง ๆ จนครบ (แต่ถ่ายมาไม่ครบนะกลัวไปเที่ยวแล้วจะไม่เพลิน) ก็ได้เวลากลับไปขึ้นรถตากแอร์ ด้วยสภาพหลังเปียก อากาศที่นี่พอ ๆ กับที่เมืองไทย
|
อีกหนึ่งความประทับใน ทำเนียบประธานาธิบดี ต้นไม้ใหญ่มากกกกก |
เป้าหมายต่อไปในการเดินทางคือ
โบสถ์นอร์ทเทรอดาม (Saigon Notre-Dame Cathedral) โบสถ์หลังคาสูงที่สร้างในสมัยเวียดนามยังอยู่ในอาณานิคมของฝรั่งเศส โดยสร้างเพื่อให้เป็นโบสถ์ประจำเมืองไซง่อนและได้สร้างตามต้นแบบของประเทศฝรั่งเศส และ
ที่ทำการไปรษณีย์ (Saigon Central Post Office) ที่ใหญ่และสวยที่สุดของเวียดนาม เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ได้เยี่มชม เป็นอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างตะวันออกกับตะวันตกได้อย่างลงตัว ทั้งสองที่นี้อยู่ตรงข้ามกันจึงแวะจอดทีเดียวชมได้สองที่
|
ลงรถปุ๊บก็ถ่ายรูปที่ทำการไปรษณีย์ (Saigon Central Post Office) ที่อยู่ตรงข้ามซะเลย |
เมื่อรถจอดสิ่งแรกที่ทำก็คือ ตรงดิ่งไปยัง McDonald เพราะเล็งตั้งแต่ก่อนลงจากรถแล้ว ตอนนี้ก็บ่ายแก่ ๆ แล้ว อาหารมื้อแรกและมื้อเดียวก็คือมื้อเช้า แถมมื้อเย็นหัวหน้าไกด์บอกกินบนเรือ ประมาณ 2 ทุ่ม บอกเลยว่าไส้ขาดพอดี ไม่พูดพร่ำทำเพลง ใครอยากชมอะไรก็ชมไป ส่วนผมของจัดการกับเบอร์เกอร์ก่อนละกัน
เมื่อพลังงานได้รับ ก็ได้เวลาชมสถานที่ ว่าแล้วก็ข้ามถนนเพื่อเดินไปยังโบสถ์นอร์ทเทรอดาม เมื่อไปถึงประตู ก็พบว่าโบสถ์ปิดไม่ให้คนเข้า บอกเลยว่าเซ็ง ก็ได้แต่ทำใจ ถอยออกมาจะถ่ายโบสถ์ก็ย้อนแสง จะไปถ่ายรูปปั้นหน้าโบสถ์ก็ย้อนแสง เออไม่เป็นไรข้ามไป ที่ทำการไปรษณีย์ก็ได้
|
ด้านหน้าของโบสถ์มีรูปปั้นของพระแม่มารี(มั้ง?) ถ่ายด้านหน้าไม่ได้ย้อนแสง |
|
โบสถ์นอร์ทเทรอดาม มีความใหญ่โตมาก ขนาดข้ามมาฟากตรงข้ามแล้วยังเก็บได้ไม่หมดเลย |
หลังจากถ่ายรูป เดินชมภายในอาคาร ก็แวะสู่โซนขายสินค้าซักหน่อย ทางเดินค่อนข้างแคบและร้อน เดินได้นิดหน่อย ก็ถอยออกมานอกอาคาร เดินชมผู้คนแทน เดินไปมาได้ซักพัก รถทัวร์ก็มารับและได้เวลาเดินทาง
|
บรรยากาศภายใน ที่ทำการไปรษณีย์ ชุลมุนวุ่นวาย จุดที่ขายของจะเป็นซอยแถว ๆ ทางเข้าครับ |
จุดหมายต่อไปคือ ช็อปปิ้งเพลิน ๆ แบบอิสระ ที่
ตลาดเบนถัน (Ben Thanh Market) ตลาดพื้นเมืองพลุกพล่านของนครโฮจิมินห์ สามารถเลือกซื้อสินค้าของฝาก ของทีระลึก และ สินค้าพื้นเมือง ที่นี่รับเงินไทยด้วยนะ พ่อค้าแม่ค้าบางคนก็พูดไทยได้ด้วย จริง ๆ แล้วพูดได้หลายภาษาและภาษาไทยเป็นหนึ่งในนั้น
|
ดูเหมือนวุ่นวายซับซ้อน แต่จริง ๆ เดินง่ายครับ ตลาดเป็นสี่เหลี่ยม ค่อย ๆ เลาะเอา |
|
ตลาดที่นี่ ถ้าสกิลต่อราคาไม่ถึง โดนฟันหัวแบะแน่นอน |
หลังจากช็อปปิ้งอย่างดุเดือดในตลาด ก็ได้ของติดมือมานิดหน่อยเป็น Almond แบบมีเปลือก และ กาแฟกล่องของ Nescafe เมื่อเดินมาถึงหน้าตลาดก็เจอยายคนหนึ่งขายอะไรซักอย่าง ก็เลยไปมุงและอุดหนุนซักหน่อย ด้วยความที่ยายไม่พูดภาษาอังกฤษทำให้เกือบอดกิน ยังดีที่ลูกค้าของยายช่วยแนะนำ ทำให้ได้กินอาหารเวียดนามในที่สุด
ขึ้นรถแล้วก็ไปชมการแสดง
ระบำตุ๊กตาน้ำ (Water Puppet Show of Vietnam) ศิลปกรรมประจำชาติ เอกลักษณ์ของประเทศเวียดนามและมีแห่งเดียวในโลก ชมความสามารถในการเชิดหุ่นกระบอก (เชิดจากในน้ำ ผสมผสานกับเสียงบรรเลงของเครื่องดนตรีเวียดนามและพากย์สด ๆ ของคณะละคร) นำเสนอเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ประเพณีและวัฒนธรรมของชาวเวียดนาม มาถึงโรงละครค่อนข้างไว ยังไม่ถึงเวลาแสดง บรรยากาศก็เงียบ มืด และเย็น จึงเกิดอาการแอบงีบไปนิดหน่อย แต่พอการแสดงเริ่มก็ตื่นเพราะเสียงดังมากเลย ก็เลยตื่นมาดูโชว์จนจบ การแสดงประมาณ 1 ชั่วโมงครับ
จุดหมายต่อไปคือ ไป
ล่องเรือตามแม่น้ำไซง่อนในยามค่ำคืน สัมผัสบรรยากาศโรแมนติก และความสวยงามของ 2 ฟากฝั่งแม่น้ำยามค่ำคืน เคล้าคลอด้วยเสียงดนตรีพื้นเมืองของเวียดนาม นั่นคือสิ่งที่คิด แต่ความเป็นจริง คือ เรือสามชั้นที่เมื่อขึ้นเรือแล้ว เราก็กิน คือ กินจริงจังมาก กินจนอาหารหมดแทบทุกอย่าง ทุกคนในทัวร์หิวจริงจัง เมื่อกินเสร็จเงยหน้าจากอาหาร โชว์ก็จบละ เอิ่ม....มันแสดงอะไรไปฟะ ไม่เป็นไรยืนข้างเรือชมวิวก็ได้ ยังโชคดีที่ได้โต๊ะทางกราบเรือ ถ้าได้โต๊ะกลางเรือคงลำบากหาจุดยืนชมวิว
|
เรือมีขนาดใหญ่พอสมควรเลย |
|
ไม่รู้ว่าอาหารอร่อย หรือหิว รู้แต่ว่าคลีนมากมื้อนี้ แทบไม่ต้องล้างจานเลย |
|
โชคดีที่ได้นั่งข้างหน้าต่าง เลยสามารถชมวิวภายนอกได้ |
|
บรรยากาศภายนอกสวยดี เสียดายกล้องมือถือถ่ายภาพแสงน้อยได้ไม่ค่อยดี ภาพเลยไม่ค่อยสวย |
|
ELISA เรือลำใหญ่ยักษ์ที่ถูกดัดแปลงกลายเป็นโรงแรม เนื่องจากสูงเกินกว่าจะอนุญาตให้แล่นได้ |
ระหว่างนั่งรถกลับไกด์ท้องถิ่นชี้ให้ดูร้านตัดผมที่มีสาวนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งอยู่ พร้อมแนะแนวทำนองว่า ท่านใดสนใจสามารถตัดผมได้ ถ้าคุยถูกคอตัดในร้านเสร็จมีบริการเสริมนอกร้านต่อด้วยนะเออ น่าเสียดายที่บอกช้าไปนิดเลยถ่ายรูปไม่ทัน ชื่อร้านก็ไม่รู้ แล้วจะมาถูกไหม ห๊าาาาาาาาา
กว่าจะถึงโรงแรมก็เกือบ 4 ทุ่ม คืนนี้ก็นอนที่
LE DUY HOTEL รับกุญแจลากกระเป๋าเข้าห้อง อาบน้ำ แล้วก็ล้มตัวนอน ช่างเป็นวันเที่ยวที่ยาวยืดดีทีเดียว
|
เตียงนอนดูนุ่มสบาย เที่ยวมาทั้งวัน ล้มไปก็สลบแน่นอน |
|
ห้องน้ำดูสะอาดดี มีการแบ่งเป็นสัดส่วน อ่างอาบน้ำสูงไปนิด ตอนก้าวขาระวังสะดุดละกัน |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น