วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

รีวิวหนังสือ: ฆาตกรในกระจกเงา

     ณ เวลานี้ ฉันอยู่ที่นี่
     มีชีวิตและอยู่ตรงหน้าเธอ
     นานมาแล้วที่เธอไม่รู้ว่าเบื้องหน้าคือใบหน้าคนอื่น ไม่ใช่ใบหน้าของเธอ
     ไม่ว่าทาลิปสติกหรือหวีผม เธอไม่เคยใส่ใจ ขณะที่ฉันเฝ้าเลียนแบบกริยาท่าทางซ้ำ ๆ เหล่านั้นด้วยความชำนาญโดยไม่รู้เบื่อ ลอกเลียนกระทั่งความสดใสยามเธอเผลอยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าถูกแต่งแต้มสีสัน
     ฉันเป็นเงา ต่อให้เธอเยื้องกรายออกไปไหน ฉันก็จะตามติดไปทุกหนแห่ง
     แต่สักวันเธอคงรู้ตัว
     วันที่ฉันเลิกเป็นเงา
     วันที่แม้เธอแย้มยิ้มสักเท่าไหร่  ก็จะเห็นเพียงใบหน้าเรียบเฉยมองตอบ
     แล้วเธอจะรู้ว่าตรงหน้าคือหญิงซึ่งเคยตายด้วยน้ำมือเธออย่างลับ ๆ
     วันนั้น... ฉัน 'จะไปพบ' เธอ

บทนำของ ฆาตกรในกระจกเงา i(ai) - KAGAMI NI KIETA SATSUJINSHA J-BOOK แนว suspense ทีได้มาจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ... ฮั่นแน่ น่าสนใจใช่ไหม

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ ศพของเอ็ทสึโกะนักเขียนหน้าใหม่ถูกพบในห้องปิดตายของแมนชันซึ่งเพิ่งย้ายเข้าพัก ที่เล่นเอาตำรวจมึนตึ๊บ เพราะหลักฐานที่ถูกทิ้งไว้เพียงหนึ่งเดียวในจุดเกิดเหตุคือ รอยเท้าเปื้อนเลือดมุ่งหน้าสู่กระจกเงา ทว่ารอยเท้านั้นไม่มีรอยหวนกลับ ราวกับว่าฆาตกรหายเข้าไปในกระจก

เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็ยังสอดคล้องกับนิยายที่เอ็ทสึโกะเขียนค้างไว้ เรื่อง 'ภาพลวงตา' ซึ่งเป็นเรื่องของเหตุการณ์ฆาตกรรมในอดีตและ 'เงา' ในกระจกที่เฝ้าหลอกหลอนเธอ...

เรื่องนี้เป็นนิยายแนวสืบสวนที่ปมค่อย ๆ ขมวดเกลียวขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งอ่านยิ่งน่าติดตาม ชวนฉงนสงสัยว่าใครกันที่เป็นฆาตกร เนื้อหาค่อยข้างสนุกน่าติดตาม ซึ่งไม่กล้าพูดเยอะ เดี๋ยวจะกลายเป็น spoil แทนแล้วจะไม่สนุก....

ถ้าเป็นคอนิยายแนวสืบสวนก็เป็นอีกเล่มที่น่าลองหามาอ่านนะครับ ถึงไม่สนุกถึงขั้นวางไม่ลง แต่รับรองว่าสนุกพอให้อ่านจนจบเล่มก็แล้วกัน รับรอง 0_<

วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

รีวิวหนังสือ: เสน่ห์หาฆาตกรรม (LETHALLY BLOND)

เสน่ห์หาฆาตกรรม (LETHALLY BLOND) หนังสือเล่มแรกที่เริ่มอ่าน หลังจากไปถอยหนังสือมาจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ที่ต้องอ่านเล่มแรกเพราะโดนบังคับให้ยืม (งงหล่ะสิ) คือ เพื่อนยัดใส่มือแล้วบอกให้ยืม ไอ้เราก็ -__- ก็ได้ สงสัยกะให้เป็นหนูลองอ่าน ก็เลยกะว่าจะเริ่มอ่านเล่มแรกจะได้ เอาไปคืน อารัมภบทยาวไป เข้าเรื่องดีกว่า

เสน่ห์หาฆาตกรรม เป็น นิยายแนวปริศนาฆาตกรรมและความรัก (แหมะ ชื่อเรื่องก็บอกแล้ว) เขียนโดย Kate White บรรณาธิการนิตยสาร Cosmopolitant นิตยสารยอดนิยมของสาว ๆ .. ซึ่งแน่นอนว่านิยายย่อมมีกลิ่นอายที่สาว ๆ ชอบแน่นอน

เล่มนี้เป็นคดีที่ 5 ของ เบลีย์ เวกกินส์ นักสืบสาวจำเป็น สไตล์ working woman (ไม่ต้องตกใจ เพราะคุณยังอ่านรู้เรื่องอยู่ เพราะผู้แต่งเขียนให้แต่ละคดีจบในเล่ม แต่ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครอาจจะแอบงง) ที่นอกจากจะเอาตัวเองไปพัวพันกับคดีฆาตกรรมจนตัวเองแทบไม่รอด ยังมีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เข้ามาให้ปวดหัวอีก เรื่องปวดหัวต่าง ๆ เริ่มขึ้นจากการที่นักแสดงหนุ่มที่รู้จักกันขอให้ร้องให้เธอสืบหาเพื่อนนักแสดงที่หายตัวไป ซึ่งการตามหานี้ก็พาเธอไปพบศพถูกไฟคลอก เธอจึงต้องสืบหาเบื้องหลังการตาย....

นิยายเรื่องนี้เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก ในส่วนของการสืบสวน แต่ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร อาจไม่ค่อยโดนใจหนุ่ม ๆ เท่าไหร่นัก...

สรุปว่าถ้าคุณเป็นผู้หญิงและชอบนิยายแนวสืบสวน นิยายเล่มนี้เหมาะกับคุณแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นผู้ชายก็ลองเปิดอ่านดูก่อนหรืออาจข้ามไปก็ได้ เพราะ คุณเบลีย์ เธอบ่นในใจเยอะเกินเหตุ อ่านแล้วอาจแอบเซง เหมือนผม (ความเห็นส่วนตัวนะครับ)

สรุปสุดท้ายจริง สนุกแต่ไม่โดน ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ ^__^

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2555

ครึ่งคึ่ง กลางกาง กับ ฝันวัยเด็ก

โตขึ้นอยากเป็นอะไร นี่คือคำถามยอดนิยมที่เรามักได้ถูกถามเสมอ เมื่อสมัยยังเด็ก ส่วนคำตอบนั้นก็สุดแล้วแต่จินตนาการและวัยวุฒิ ถ้าคุณถามเด็กเล็กๆ คำตอบอาจจะกว้างเป็นได้ทุกสิ่งทุกอย่างสุดแล้วจินตนาการจะพาไป อาจเป็นฮีโร่คนใดคนหนึ่งทั้งในการ์ตูนหรือชีวิตจริงของเค้าหรือเป็นสัตว์ประหลาดก็อาจเป็นได้ แต่ถ้าเด็กโตขึ้นมาหน่อยเค้าอาจตอบเป็นอาชีพในอนาคต ซึ่งเป็นคำตอบอันเกิดจากการเสี้ยมและสอนว่าคำตอบต้องไปในทิศทางนี้หรือคำถาม ก ข ค ง เพราะจินตนาการได้ถูกจำกัดให้เหลือแต่ในกรอบแห่งความเป็นจริง

เกริ่นมายืดยาวแล้วตกลงว่าฝันวัยเด็กผมคืออะไร...ผมอยากเป็นนักวาดการ์ตูนครับเป็นความฝันที่อลังการที่สุดเท่าที่เด็กที่เกิดก่อนยุคเกมคอมพิวเตอร์จะนึกออก สิ่งที่หล่อหลอมจิตใจเด็ก ๆ สมัยนั้นคือการ์ตูนช่อง 9 ในช่วงเช้า เสาร์-อาทิตย์ ที่มีน้าต๋อยพากย์แทบทุกเรื่อง อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้จนเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตวัยเด็กคือหนังสือการ์ตูน ที่เราอ่านได้ไม่เคยเบื่อ

ฝันนี้ของผมยังคงติดตัวขึ้นมาจนถึงสมัย ม.6 ที่ถึงจุดทางแยกชีวิตกับการเอนสะท้าน(เอนทราซ์)เพื่อเข้ามหาลัย จริงๆ ก็ยังอยากไปทางที่ชอบ แต่ด้วยความสังวรในทักษะทางศิลปะที่ต้อยต่ำ จึงต้องเบนเข็มชีวิตออกไปจากความฝันวัยเยาว์ สู่จุดมุ่งหมายตามแบบผู้ใหญ่ แต่ฝันในวัยเด็กก็ยังวนเวียนมาให้นึกถึงไม่จางไป ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องเอากระดาษกับดินสอมาวาดรูปเล่น....

แล้วคุณหล่ะครับ ไปถึงจุดหมายปลายฝันหรือยัง หรือว่ายังติดอยู่แบบครึ่งๆ กลางๆ แบบผม