เอาหล่ะวกกลับมาต่อ ในตอนนี้เครื่องบินก็ได้กำลังดิน (land = ดิน, landing = กำลังดิน) ไม่ต้องคอมเม้นท์บอกนะ เพราะรู้อยู่แล้วว่า มันแป๊กมากกก… ต่อ ๆ พอเครื่องจอดสนิทพร้อมสัญญาณถอดเข็มขัด ก็เริ่มเห็นผู้โดยสารถอดเข็มขัดออกแล้วก็ลุกขึ้นเพื่อหยิบกระเป๋า แต่ไม่ต้องกลัวว่ากางเกงจะหลุดนะเพราะเค้าถอดเข็มขัดนิรภัย ไม่ใช่เข็ดขัดกางเกง (…………งืด)
พอเก็บของเรียบร้อยก็เตรียมทยอยลงเครื่องกัน ซึ่งค่อย ๆ ลงบันไดแล้วก็ออกประตูไป ระหว่างที่กำลังจะออกจากเครื่องก็หันไปเห็นแอร์กำลังทำหน้าที่เหมือนตำรวจจราจร คอยกั้นคนไม่ให้คนที่นั่ง economic ออก ต้องปล่อยให้พวกจ่ายแพงออกก่อน เห็นแล้วก็ทำให้คิดได้ ว่าอยู่ประตูเปิดตั้งนานละทำไมแถวใน economic มันไม่เดินกันซักที ที่แท้ต้องให้พวกนี้ลงก่อนนี่เอง คิดได้ละก็รีบเดินออกมาเพื่อจะไปต่อเครื่องบินลำที่จะไป Seattle ต่อไป
พอเดินออกมาจากเครื่องบินก็จะการตรวจคนอีกรอบ ซึ่งพลังอภิสิทธิ์กำสำแดงเดชอีกรอบ ไลน์จะตรวจมี 4 แถว 2 แถวของ eco อีก 2 แถว สำหรับ business กับ first class แต่จำนวนคนแน่ต่างกันเยอะเลย
พอผ่านการตรวจคนเข้ามาก็หลุดเข้ามาสู่อาณาเขต duty free ซึ่งแน่นอนได้รับการฝากฝัง เชิงสะกดจิต ก่อนมาว่า Royce ๆ ๆ ๆ ๆ อย่าลืมโดยเด็ดขาด ซึ่งก่อนมาก็ไม่รู้จักแต่พอมาถึงเห็นมันเป็นตู้เลย แสดงว่ามันคงดังน่าดูเลย
ช็อคโกแลต หรอย(Royce)
หลังจากไปยืนด้อม ๆ มอง ๆ ก็ดูน่ากินเหมือนกันนะ ขากลับต้องมารับกลับไปซักกล่อง หลังจากดูเสร็จก็เดินโต๋เต๋ไปมา ไปสะดุดเข้ากับป้าย Free wi-fi ซึ่งคนก็ค่อนข้างเยอะ นั่งพยายามต่อเน็ตกัน
คนมุง ณ จุด ไวไฟ
เมื่อเห็นเยี่ยงนั้น ก็เล่นบ้างดิ ไปร่วมวงพยายามต่อเน็ตบ้าง… หลังจากใช้ความพยายาม 10 นาทีผ่านไป ก็ไม่ประสบความสำเร็จ หันไปมอง 2-3 คนรอบตัว ก็ทำท่าพยายามต่อเหมือนกัน แต่ก็เหมือนจะไม่ได้เช่นกัน นั่งไปนั่งมาเริ่มเซง เลยอพยพ ไปนั่งข้าง Gate ดีกว่าคนจะได้ไม่เยอะ นั่งว่างไม่มีอะไรทำก็เลยเริ่มเขียน blog แก้เซง รอเครื่องมา ซึ่งเขียนไปเขียนมา ก็กลายเป็นเรื่องเยี่ยงนี้แล
ปล. ก็ถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายนะเพราะถ้าเล่น internet ได้ก็คงไม่บ้านั่งเขียน blog อย่างนี้ ก็ถือว่าเสียอย่างก็ได้อย่างก็แล้วกัน
สำหรับตอนต่อไป จะเป็น Trip จาก Narita สู่ Seattle ซึ่งจะมีอะไรเกิดขึ้นนั้นติดตามกันได้ใน blog หน้านะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น