วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เรื่องเน่าหนุ่มออฟฟิศ - ตอนที่ 1 คนข้างล่าง - ครึ่งหลัง

ตอนที่ 1 คนข้างล่าง - ครึ่งหลัง

“แกร๊ก ๆ แกร๊ก ๆ ” เสียงคีย์บอร์ดดังรัวแบบสายฟ้าแลบ เป็นเสียงที่เกิดจากการทำงานอย่างขยันขันแข็งของบุคคลากรอีกคนหนึ่งของทีม

“พี่แม็กชอบน้องขิงใช่ไหมคะ” เสียงใสดังกระวานดังสอดแทรกมาจากเสียงพิมพ์คีย์บอร์ด เป็นคำพูดที่สั้น แต่ดึงความสนใจได้อย่างมหาศาล ทั้งแม็กและซ้งต่างมองไปทางที่มาของเสียง ทั้งสองก็เห็นหญิง นั่งทำงานอย่างขยันขันแข็ง ใบหน้ายังจ้องไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ นิ้วมือทำการพิมพ์ตัวอักษรอย่างต่อเนื่อง ราวกับนักดนตรีบรรเลงเปียโน

“แกร๊ก ๆ ..” เสียงคีย์บอร์ดยังดังต่อเนื่อง ท่าทางวันนี้งานน่าจะเข้า คงเป็นวันยุ่ง ๆ อีกวันของหญิง

“สวัสดีครับหญิง แหม.. อะไรทำให้หญิงคิดว่าพี่ชอบน้องเค้าหล่ะ พี่ว่าหญิงน่ารักกว่านะ” แม็กทักทายและหยอดคำหวานตามสไตล์ส่วนตัว พร้อมพยายามเลี่ยงตอบคำถามของหญิง

“น้องขิง ก็น่ารักดีนะ แต่ก่อนเคยอยู่ทีมเดียวกับพี่หมวย น้องขิงเลยชอบแวะลงมาคุยกับพี่หมวย..”

“อ้อ ที่สำคัญน้องขิงยังไม่มีแฟนนะพี่แม็ก พี่ยังมีโอกาสนะ” หญิงพูดโดยไม่ได้มองมาที่แม็ก แล้วยังไม่ได้สนใจคำตอบของแม็กอีกด้วย ไม่รู้ว่าหญิง ไม่สนใจคำตอบของแม็กอยู่แล้ว หรือว่า หญิง อาจฟังแม็กพูดไม่รู้เรื่องกันแน่ เพราะแม็กพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงอังกฤษ ด้วยความเร็วสูงราวกับกลัวคนแย่งพูด รวมถึงการวางรูปประโยคได้น่างุนงงนัก สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ ก็เนื่องจากแม็กย้ายถิ่นไปเรียนที่อเมริกาตั้งแต่สมัยมัธยม จนเพิ่งกลับมาเร็ว ๆ นี้ ก็กินเวลากว่า 16 ปี ที่แม็กอยู่ที่นั่น จึงไม่แปลกที่จะแทบจะลืมภาษาไทยไปแล้วเพราะแทบไม่ได้ใช้งาน

“อา...” แม็กพยายามที่จะพูด

“เพิ่งรู้นะว่าพี่แม็ก ชอบสเปคสาวแบบไทย ตัวเล็ก นึกว่าจะชอบแบบฝรั่งหุ่นนางแบบขาว ๆ สูง ๆ ซะอีก” หญิงพูดอย่างต่อเนื่องโดยไม่เปิดโอกาสให้แม็กได้พูดอะไร

“อา...” แม็กพยายามจะพูดอะไรซักอย่าง

“แหม ก็พี่แม็กอยู่เมกาตั้งนาน ก็เลยกลายเป็นฝรั่งไง ชอบสาวแบบไทย ๆ” ซ้งสำทับโดยไม่เปิด โอกาสให้แม็กได้พูด

“ใช่ ๆ … ” ขณะหญิงกำลังจะพูดต่อ ก็เหลือบไปเห็นแม็กนั่งนิ่งพร้อมกับยกมือขอโอกาสพูด หญิงจึงเบรคคำพูด แล้วก็เปิดโอกาสให้แม็กได้พูดบ้าง

“แหม สองคนนี้ ว่าผมจัง ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูดเลย.. ซ้งนี่ก็เข้าข้างหญิงตลอดเลยนะ”

ขณะนั้นเอง พี่หมวยก็กลับมาจากการประชุม เดินผ่านหน้าซ้งและแม็กเพื่อกลับไปยังที่นั่งประจำตำแหน่ง ข้าง ๆ กับที่นั่งของหญิง

"พี่หมวยครับ ซ้งกับหญิง แกล้งผมอีกแล้ว" แม็กทำการฟ้องพี่หมวยทันทีพี่หมวยหย่อนก้นลงนั่ง
"แหม ๆ เด็ก ๆ อย่าทะเลาะกัน ว่าแต่ไปแกล้งอะไรน้องแม้กเค้าหล่ะ" หมวยถาม ที่จริงแล้วพี่หมวยของน้อง ๆ ในทีม ก็มีอายุมากกว่าน้อง ๆ ในทีม 2-3 ปี เท่านั้นเอง

"ไม่มีอะไรมากหรอกพี่หมวย ก็แค่แซวพี่แกเฉย ๆ เห็นอึ้งไปตอนน้องขิง เดินผ่านไป" ซ้งตอบ

“เหรออออ...” แม็กลากเสียงยาว

"อ๋อ อย่างนี้นี่เอง...” พี่หมวยมองแม็กสายตามีเลศนัย

“พี่ว่าน้องขิงเค้าก็นิสัยดีนะ จากที่พี่คุยล่าสุด เค้ายังไม่มีแฟนล่ะ
ว่าแต่น้องแม็กจะจีบน้องเค้าเหรอ น้องเค้ายังเด็กอยู่เลยนะ" หมวยพูดพลางหันไปสบตาแม็กอีกที

“แหม พี่่หมวยก็อีกคนนะ สมแล้วกับที่ทุกคนอยู่ทีมเดียวกันจริง ๆ” แม็กพูดแทบจะทันทีหลังจากที่หมวยพูดจบ ยังไม่ทันที่แม็กจะกล่าวอะไรต่อ ก็มีคำพูดดังมาจากด้านหลังของแม็ก ซึ่งได้หันหน้าไปทางพี่หมวยในขณะนั้น

“พี่แม็ก มาทำไรแถวนี้ ไม่มีงานทำเหรอ” คำพูดพร้อมน้ำเสียงแดกดันอย่างเป็นเอกลักษณ์ของเขาคนนั้น
แม็กรู้ได้แทบจะทันทีว่าคนที่พูดลักษณะนี้มีเพียงคนเดียว ก็คือ ต่าย น้องเล็กสุดประจำทีม นั่นเอง

“หวัดดีต่าย” ทุกคนในทีมทักทายไปที่ต่าย

“สวัสดีครับ” ต่ายทักทายกลับทุกคน

“ว่าแต่พี่ชวนนั่งจับกลุ่มเมาท์แต่เช้าเลยนะ” ต่ายยังแขวะแม็กต่อ

“อ้าววุ้ย ว่าตรูดีจัง กลับโต๊ะไปทำงานก็ได้วะ” แม็กก็เดินกลับไปยังโต๊ะของตน และ วงสนทนาเรื่องเล่าเช้านี้ก็จบลงโดยปริยาย

…...

หลังจากที่แม็กกลับมานั่งประจำที่ได้สักพัก แม้ร่างกายของแม็กจะได้ตั้งท่าเตรียมพร้อมทำงาน มือวางที่คีย์บอร์ด นัยน์ตาเหมือนจ้องมองไปทางจอคอมพิวเตอร์ แต่จริง ๆ แล้วความรู้สึกของแม็กได้ล่องลอยไปหาสาวชั้นบนเรียบร้อยแล้ว....

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น