วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

2018 ควงสาวเที่ยวญี่ปุ่น : ตะลุยเกาะฮอกไกโด Day 2

สวัสดียามเช้า หลังจากนอนหลับแบบงงบนเครื่องบิน ก็โดนปลุกตื่นตั้งแต่ก่อนตี 5 (เวลาไทย) มากินข้าวเช้าบนเครื่องบินของหางแดง Air Asia X   มื้อเช้าวันนี้คือ ข้าวไก่ย่าง พร้อมน้ำจิ้มแจ่ว อร่อยใช้ได้เลยนะ หลังจากกินเสร็จก็งีบต่อได้  มารู้สึกตัวตื่นอีกทีก็ตอนล้อแตะพื้นเรียบร้อย และแล้วเราก็มาถึงที่ สนามบิน New Chitose Airport  เมื่องซัปโปโร เกาะฮอกไกโด มาถึงเวลาประมาณ 9 โมงญี่ปุ่น (เวลาเร็วกว่าไทย 2 ชม) ลงเครื่องมาก็ต่อแถวตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งแถวยาวมากกกกก  จากนั้นก็ไปรับกระเป๋า พอจะเข็นออกมาก็เจอพี่ ตม ใจดี ขอตรวจกระเป๋านิดนึง แน่ละก็ไม่ขัดข้องเพราะขาไปกระเป๋าเบา ๆ  กว่าคณะทัวร์จะออกมากันได้ครบคนก็ 10:45 เลยทีเดียว

ได้เวลาอันเหมาะสมก็ขึ้นรถทัวร์เพื่อเดินทางไปยัง สวนชิกิไซโนะโอกะ Shikisai no Oka อยู่ที่เมือง บิเอะ เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางเกาะฮอกไกโด ห่างจากสนามบินประมาณ 3 ชม ระหว่างทางมีแวะเข้าห้องน้ำ 1 รอบ ก็ขอแชะภาพซักหน่อย
มาญี่ปุ่น ถ่ายกับป้ายภาษาญี่ปุ่นซักหน่อย เดี๋ยวไม่รู้ว่ามาถึง
บรรยากาศดูเงียบสงบ จนรู้สึกแปลก ๆ ว่าคนหายไปไหนกันหมด
ของญี่ปุ่นดูน่ารัก น่าซื้อ แต่ไม่ซื้อ เอ๊ะยังไง
มีแต่ของดูกวน ๆ แต่น่ารัก


จากนั้นนั่งยาวไปกินข้าวเที่ยง ซึ่งกว่าจะได้กินจริงๆ ก็ปาไปบ่ายโมงครึ่งแล้ว มื้อเที่ยงวันนี้เป็นบุฟเฟ่ต์จ้า บอกเลยว่าโดนใจมากเพราะหิวอย่างแรง อาหารน่ากินหลายอย่าง แต่ทีเด็ดคงเป็น หอยเชลล์อบเนยตัวอบอ้วน และเนื้อแกะเจงกีสข่านที่ผัดมาได้อย่างกลมกล่อม ราเมงโชยุ ก็อร่อยโดนใจมาก อ้อ กิมจิ ก็อร่อย กินแล้วแก้เลี่ยนได้เดีเลยทีเดียว นอกนั้นก็เฉยๆ ครับ  ลืมบอก...น้ำเปล่าอร่อย สดชื่น เย็นชื่นใจ
คนมหาศาล มาถึงต้องรอคิวก๋อนเข้าไปกิน
บรรยากาศวุ่นวาย
ตักมาชิมอย่างละนิดละหน่อย อาจดูไม่น่ากิน แต่ก็อร่อยนะ เทมปุระฟักทอง หวานมาก
เนื้อแกะผัดกะทะร้อน กับหอยเชลล์อบเนย เติมไปหลายรอบ กินหยดสุดท้าย

กินจนอืดก็ได้เวลาเดินเล่นในร้านอาหาร มีของขายเกี่ยวกับลาเวนเดอร์มากมายให้เลือกสรร ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการดูดเงินได้ดีเลยทีเดียว

เดินย่อยเสร็จก็ได้เวลากลิ้งขึ้นรถ พร้อมกับการหมุนของล้อเพื่อไปยัง สวนชิกิไซโนะโอกะ Shikisai no Oka ดูนาฬิกาตอนออกมาก็บ่าย 2:40 แล้วนะนี่จะไปเที่ยวทันมั้ยเนี่ย... โชคดีที่สวนอยู่ไม่ไกลจากที่กินข้าวเที่ยงมาก ยังไม่ทันได้หลับก็มาถึงจุดหมาย อากาศวันนี้ไม่ร้อน ไม่หนาว เดินชมดอกไม้ได้สบาย

3 รูปบนเป็นฝีกล้องของแฟนสาว ส่วน 3 รูปด้านล่างถ่ายเอง คงไม่ต้องบอกนะครับว่า ฝีมือใครเหนือกว่ากัน 

เนื่องจากมีเวลาเดินเที่ยวที่จำกัดเพียง 1 ชม. ทำให้ต้องรีบแชะเก็บบรรยากาศโดยรอบอย่างรวดเร็ว น่าเสียดายดอกไม้ยังบานไม่เต็มที่ ถ้ามาช่วงปลายเดือนน่าจะสวยกว่านี้ แต่โดยรวมก็สวยงาม  พอขึ้นรถก็มุ่งสู่จุดหมายต่อไปคือ โทมิตะฟาร์ม Tomita Farm ที่น่าจะเรียกว่าเป็นไฮไลท์ของการมาชมดอกไม้ที่ฮอกไกโดเลย จุดเด่นของที่นี่ก็คือดอกลาเวนเดอร์ ที่มีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย พร้อมไอติมลาเวนเดอร์ ที่น่าลิ้มลอง ที่นี่ก็มีเวลาเดินเล่นเก็บรูปอีก 1 ชั่วโมง ที่โทบิตะฟาร์ม ไม่ได้กว้างใหญ่เหมือน สวนชิกิไซโนะโอกะ ก็เลยทำให้มีเวลาถ่ายรูปได้หลากหลายมุมกว่า วิวจะให้ความรู้สึกแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันก็คือ ดอกไม้ยังบานไม่เต็มที่เหมือนกัน =__=

ก็เช่นเคยครับ ด้านบนคุณแฟนเป็นคนถ่าย ส่วนด้านล่างผมถ่ายเอง ต้องย้ำอีกรอบว่า ไม่ต้องบอกก็รู้เนอะว่าใครฝีมือเหนือกว่ากัน ส่วนรูปสุดท้ายขอชุดนี้คือไอติมลาเวนเดอร์ ที่ถ่ายรูปไม่ทัน โดยเขมือบไปก่อน :p

พอถึงเวลานัดตอน 5 โมงครึ่งก็ได้เวลา กระโดดขึ้นรถ หลับตาพักผ่อน เพื่อเดินทางไปยัง Hotel Mount Racey ซึ่งห่างไป 2 ชม โดยโรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่เมืองยูบาริค โรงแรมนี้มาลานสกีด้วยนะ คาดว่าถ้ามาหน้าหนาวคงจะพีคมากมาย   มาถึงห้องพักก็เก็บภาพต่าง ๆ ภายในดูซักหน่อยก่อนแล้วกัน

หลังจากเอากระเป๋าเข้าห้องพักก็ได้เวลาของอาหารเย็น มื้อนี้เป็นบุฟเฟต์โรงแรมที่พัก ซึ่งมีทีเด็ดคือมี เมล่อน ให้ได้หม่ำแบบไม่จำกัด ก็เลยโซ๊ยกันอย่างเมามันส์ คาดว่าน่าจะกินไปคนละลูกได้ ส่วนขาปู ไม่ค่อยโดนครับ พอดีแกะปูไม่ค่อยเป็น เลยขี้เกียจกิน กินเมล่อนรัว ๆ ดีกว่าเนอะ  (รูปอาหารอาจไม่น่ากิน พอดีมือสั่น รีบถ่ายรูป รีบไปกิน)

หลังจากกินเสร็จก็ได้เวลากลับไปยังห้องนอน แต่ด้วยสภาพท้องที่ตึงเปรี้ยะ ก็เลยถือโอกาสเดินย่อยไปยังร้านมินิมาร์ทที่อยู่ใกล้ ๆ โรงแรมดูว่ามีขนมอะไรให้ซื้อกินบ้าง แต่สุดท้ายก็ได้เบียร์กับโยเกิร์ตมาอย่างละ 1 ชิ้น... พอกลับมาโรงแรมก็ได้เวลาไปลองแช่ออนเซ็นดู เอาวะไหน ๆ ก็มาญี่ปุ่นละของลองหน่อยละกัน
แช่ออนเซ็นเสร็จ ก็จิบเบียร์เย็น ๆ แล้วก็หลับเป็นตาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น