เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้นมา ผมเห็นเพียงฝ้าสีขาวโพลนและแสงจากหลอดผอมจอมประหยัด ก่อนที่ผมจะได้คิดอะไร ก็มีเสียงเจี้ยวแจ้ว พร้อมใบหน้าขาวเนียนที่ก้มลงมาแทบจะชนหน้าผม "ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ คุณgreen" เธอเอ่ยถาม "คุณ Green?" ผมทำหน้างงพร้อมพูดกลับอย่างแผ่วเบา พร้อมพยายามจัดระบบความคิด พลางนึกออกว่า Cross Ranger นั้นจะใช้ code name ในการเรียกขานกันเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการลบประวัติและปกป้องบุคคลที่อยู่ข้างหลัง หลังจากเรียกสติได้ ผมก็ตอบกลับไป "ครับ ผมไม่เป็นไรแล้ว" พยาบาลสาวยิ้มให้พร้อมทั้งถอยออกไป ผมจึงดันตัวขึ้นถลกผ้าห่มออกพร้อมลุกขึ้นจากเตียง เมื่อผมยืนขึ้นก็เห็นหน้าที่แดงเป็นลูกตำลึงของพยาบาลสาว "เอ่อ คุณ Green คะ คือว่า..." เธอก้มหน้างุดๆ พร้อมทั้งชี้มาที่ผม เมื่อผมก้มดูก็พบว่าตัวผมนั้นเปลือยเปล่า ไวเท่าความคิดผมกระโดดขึ้นเตียงคว้าผ้าห่มมาปิดทันที เมื่อคุณพยาบาลเห็นเช่นนั้นก็เอามือที่ปิดหน้า(แต่ไม่ปิดตา)ลง พร้อมทั้งชี้ไปยังชุดของผมที่วางอยู่บนตู้ข้างเตียง พอผมแต่งตัวเสร็จแล้ว คุณพยาบาลก็เดินเข้ามาหาผมด้วยท่าทีเหนียมอาย พร้อมยื่นกระดาษให้หนึ่งแผ่น ผมได้แต่กระหยิ่มยิ้มในใจกับความหล่อของตัวเอง ที่ไม่ต้องเอ่ยปากก็ได้เบอร์โทรแล้ว ผมรับกระดาษนั้นมาพร้อมกับอ่านดูในทันที
Green เมื่อนายตื่นแล้วมาเจอที่ห้อง Lab หมายเลข 4
ผมทำหน้างงใส่คุณพยาบาล เธอจึงบอกว่า "ดร. Cross ฝากไว้ให้ค่ะ" ผมก็เลยถึงบางอ้อพร้อมกับกล่าวขอบคุณ ก่อนจะออกจากห้องผมหันกลับมาถามคุณพยาบาล "ว่าแต่คุณชื่ออะไรครับ" "เมย์ค่ะ" เธอตอบกลับมาด้วยเสียงอ่อนหวานทำเอาใจผมสั่นเลยทีเดียว
หลังจากใช้เวลาในการหลงทางอยู่พักใหญ่สุดท้ายผมก็มาถึง Lab หมายเลข 4 จนได้ เมื่อเปิดประตูเข้าไป ผมก็พบว่ามีคนใส่ชุดแล็ปอยู่มากมายเลยทีเดียว โดยพวกนั้นทำงานต่อโดยไม่ได้หันมามองที่ผมด้วยซ้ำ แล้วก็มีเสียงดังออกจากลำโพง "โอ้ Green เธอ ตื่นแล้วเหรอ นึกว่าจะได้หาคนใหม่มาแทนแล้วนะนี่" เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ ดร. Cross ดังผ่านลำโพงออกมา "เอาหล่ะ ขอให้ทีมที่ดูแล Green เตรียมการทดสอบชุดและความเข้ากันได้กับ Cross stone เราจะเริ่มทำการทดสอบในอีก 10 นาที ส่วน Green เธอไปหาที่นั่งรอให้พวกนั้นเรียกแล้วกัน" เมื่อผมได้ยินดังนั้นผมก็เดินไปหามุมสงบยืน ระหว่างที่ดูความวุ่นวายใน Lab นั้นตาผมก็เหลือบไปเห็นคน คนหนึ่งที่แต่งกายไม่เหมือนชาวแล็ปคนอื่น ๆ เพราะชุดที่เค้าใส่นั้นคล้ายกับที่ผมใส่อยู่ ระหว่างที่ยืนดูพฤติกรรมของหมอนั่น ก็มีเสียงพูดขึ้นมา "คนนั้นคือ Black" ผมจำเสียงที่อ่อนหวานนี้ได้หันกลับไปก็พบคุณพยาบาลเมย์ยืนอยู่ข้าง ๆ "สวัสดีอีกครั้งครับ คุณพยาบาลเมย์" "เรียกเมย์ เฉย ๆ ก็พอค่ะไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้" เธอตอบกลับด้วยเสียงที่เป็นกันเอง "ว่าแต่ ทำไมผมไม่เคยเห็น Black เลย" ผมถามต่อ "อ้อ เค้าเพิ่งมาถึงที่ฐานนี้ตอนที่ฐานโดนโจมตีพอดี และเค้านี่แหละค่ะที่ช่วยคุณออกมาพร้อมทั้งช่วยปฐมพยาบาลคุณด้วย" เมย์ตอบด้วยเสียงสดใส ยังไม่ทันที่ผมจะถามอะไรต่อเหล่ามนุษย์แล็ปก็พุ่งเข้ามาลากตัวผมไปทำการทดสอบ ผมเลยได้แต่ยิ้มเหวอ ๆ ให้เมย์
สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าเป็นชุดเกราะสีเขียวเข้มคล้ายเกราะของอัศวินของทางยุโรปในยุคสงคราม Crusade เป็นชุดเกราะที่ดูหนักมากเลยทีเดียว ระหว่างที่กำลังตะลึงกับชุดเกราะนั้น ดร. Cross ก็ปรากฏตรงหน้าผม พร้อมทั้งไล่ผมไปใส่ชุดเกราะตัวนั้นซะ "เอ่อ ว่าแต่จะให้ผมสวมยังไงครับ" ผมถามขึ้น "ก็ไม่ยาก เห็นลูกแก้วสีเขียวที่หน้าอกไหม สิ่งนั้นคือ Cross Stone ถ้าเธอสามารถเข้ากับมันได้ เธอก็จะสวมเกราะได้เอง" ดร. cross ตอบกลับ พอได้ฟังดังนั้นผมจึงเดินไปยืนตรงหน้าชุดเกราะนั้นพร้อมทั้งเอื้อมมือไปแตะที่ Cross stone ช่วงเวลานี้เองที่ทุกอย่างเงียบกริบ มนุษย์แล็ปทุกคนหยุดทำงาน และยืนลุ้นดูว่าผมจะเข้ากับ Cross stone ได้ไหม พอมือผมสัมผัสกับ Cross stone ก็มีแสงสีเขียวสว่างไสวไปโดยรอบ ทำให้ทุกคนต้องหยีตาหรือหลับตาหลบแสงนั้น พอแสงสีเขียวหายไป ชุดเกราะที่อยู่ตรงหน้าก็ได้หายไปด้วย พร้อมกันนั้นผมยังรู้สึกตัวเบาแบบแปลก ๆ เหมือนจะลอยได้เลย พอขยับตัวไปมาก็พบว่าร่างนั้นเปลี่ยนไป ผมจึงหันไปทาง ดร.Cross แล้วก็พบกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม ดร.Cross ก็พูดออกมาว่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทีม Green
ยังไม่ทันที่ผมจะได้ดีใจอะไร ดร.Cross ก็พูดต่อ "เอาหล่ะไหน ๆ นายก็ได้ใส่ชุดเกราะดูแล้ว มาลองทดสอบกันหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวจะให้ Black เป็นคู่ทดสอบด้วย" อ้อ แล้วก่อนที่จะเริ่มบู้กัน ฉันขอแนะนำหน่อยละกันว่า Black ถนัดการต่อสู้ด้วยเทควันโด จะได้ถือว่าต่อให้เธอนิด ๆ ละกัน" พูดจบ ดร.Cross ก็ยิ้มให้ก่อนเดินฝ่าฝูงชนไป ระหว่างที่ผมลองขยับร่างกายไปมา ก็มีแสงสีดำสว่างขึ้นอีกด้านหนึ่งของห้อง ซักพักก็มีคนเดินตรงมาที่ผม เธอคนนั้นเป็นหญิงสาวผมดำขลับพริ้วไสวตัดกับสีผิวที่ขาวละเอียด ใบหน้าที่น่ารักขนาดนักร้องดังจากเกาหลียังชิดซ้าย ชุดที่เธอใส่เป็นเกราะสีดำสนิท เกราะของเธอนั้นเหมือนสนับกันกระแทกสำหรับนักเล่นสเก็ตบอร์ดสวมอยู่ โดยคลอบคลุมตั้งแต่หัวไหล่ไปจนถืงฝ่ามือ ส่วนที่ขาก็เริ่มจากเข่าลงไปจนถึงปลายเท้า ส่วนตัวนั้นไม่มีเกราะ มีเพียงเสื้อรัดรูปที่ทำให้ดูทะมัดทะแมงและเน้นรูปร่างให้เด่นชัดขึ้น ระหว่างที่ผมมัวแต่จ้องเธอนั้น เธอก็เดินเข้ามาจนอยู่ต่อหน้าผมพร้อมกับยื่นมือออกมาทำท่าเหมือนจะจับมือด้วย ผมจึงยื่นมือออกไป แต่แล้วผมกลับลอยคว้างอยู่บนอากาศและกระแทกลงบนพื้น สมองผมเพิ่งสั่งการบอกว่าเมื่อครู่นี้ผมโดนเธอจับทุ่มในจังหวะที่ผมยื่นมือออกมานั่นเอง พอผมตั้งสติได้จึงดีดตัวลุกขึ้นมา การกระแทกเมื่อครู่ไม่ได้ทำให้ผมเจ็บตรงไหน จะมีก็เพียงอารมณ์เคืองเท่านั้น ผมจึงตั้งท่าเตรียมต่อสู้ โดยผมก็เริ่มโจมตีด้วยการเตะตัดขา โดยหวังที่จะทดสอบกำลังของฝั่งตรงข้ามและของผมเอง เมื่อเตะออกไปเธอคนนั้นก็หลบขาที่ผมเตะไปได้ พร้อมกันนั้นยังใช้ขาของเธอเตะส่งขาผมตามน้ำไปในทิศทางเดียวกันอีก เป็นผลให้ผมเสียสูญและลอยอยู่กลางอากาศ จังหวะนั้นเธอก็ประเคนลูกตอกส้นเข้าที่แก้ม เล่นเอาผมกระแทกพื้นเข้าอย่างจัง หมวกเกราะที่สวมอยู่ถึงกับกระเด็นไปเลย การโจมตีครั้งนี้เริ่มสร้างความเจ็บปวดแล้ว พอผมลุกขึ้นได้ผมก็เปิดฉากการโจมตีอย่างต่อเนื่องทันทีด้วยแม่ไม้มวยไทยที่เป็นรูปแบบการต่อสู้ที่ผมถนัด แต่เหมือนจะไม่ได้ผลอะไรเลยเพราะยิ่งผมโจมตีไปหนักเท่าไหร่ ผมยิ่งโดนสวนกลับหนักเท่านั้น หลังจากการโจมตีชุดสุดท้ายที่จบด้วยการโดนถีบเต็มอก จนกระเด็นไปด้านหลังถึง 15 เมตร ซึ่งถ้าเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีชุดเกราะนี่หล่ะก็คงไส้แตกไปแล้ว ดูเหมือนว่าการโจมตีธรรมดาจะไม่ได้ผลซักเท่าไหร่ ผมจึงต้องลองหนึ่งในท่าไม้ตายของผมดูซักหน่อย ผมกระโดดถอยหลังออก ยันขาหลังออกไปเพื่อเป็นแรงส่ง จากนั้นผมพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงเพื่อเข้าประชิดคู่ต่อสู้ และจังหวะนั้นเองที่ผมได้โอกาสเอามือล็อคคอเพื่อเตรียมตีเข่า แต่จังหวะที่เข่ากำลังจะเข้าปะทะที่ท้องนั้น เธอคนนั้นก็ได้ดึงหน้าผมไปชิดหน้าของเธอและจูบปากผม ซึ่งเป็นการตอบสนองที่ทำให้ผมงุนงงและเสียจังหวะไปอย่างมาก ระหว่างที่ผมกำลังอึ้งอยู่นั้นผมก็โดนประเคนลูกเตะนับไม่ถ้วนและจบลงด้วยการไปกองที่พื้น แน่นอนว่าผมยังมีแรงพอสู้ไหว แต่ไม่รู้ทำไมที่อยู่ ๆ ชุดเกราะมันหนักขึ้นมาก หนักจนกระทั่งผมไม่สามารถกระดิกนิ้วได้เลย ผมทำได้เพียงเกร็งตัวยกขึ้นเพื่อมองไปยังคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้า เธอได้เดินเข้ามาใกล้พร้อมทั้งพูดว่า "ขยับตัวไม่ได้ใช่ไหม จงจดจำและเรียนรู้ว่า ตนเองอ่อนแอแค่ไหน" พูดจบเธอก็ยกขาขึ้นลอยไปกลางอากาศพร้อมทั้งตอกส้นเท้าเข้าที่กลางกระหม่อมของผม ก่อนที่ตาของผมจะปิดพร้อมกับสติจะดับวูบ ผมเห็นแสงสีดำที่ส่องออกมาจากเธอคนนั้น และเมื่อแสงนั้นหายไปกับเหลือเพียงชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่ตรงนั้น...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น