วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เรื่องสั้นหัดเขียน: เพ้อเจ้อ

วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันเห็นเขา เขาคนนั้นมาที่นี่เวลาเดิมทุกวัน ฉันได้เพียงแต่แอบลอบมอง ขณะที่เขาเกร็งกล้ามเนื้อออกแรงยกลูกเหล็กแสนหนักอันนั้น แม้จะลอบมองเขามานานแล้วแต่ฉันไม่เคยกล้าจะสบตากับเขาตรง ๆ ซักที อย่าว่าแต่สบตาเลย เพียงแค่มองหน้าเขาก็ทำให้ร้อนผ่าวไปทั้งหน้าแล้ว ถ้าฟ้าดลบันดาลให้ฉันได้สบตากับเขาหล่ะก็ ฉันกลัวเหลือเกินว่าจิตใจที่แสนจะอ่อนไหวนี้ จะระเบิดออกมา ถึงอย่างไรฉันก็ไม่อาจละสายตาจากเขาไปได้ ดวงตาที่กลมใสสะท้อนความน่าพิศวงหลงใหล ทำให้คนที่เผลอมองมันไม่สามารถจะหักห้ามใจไม่ให้เคลิบเคลิ้มไปกับมันได้ บางทีก็ทำให้ลืมหายใจจนแทบเจียนตาย โอ้ มันช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน เขานั่งลงที่มุมประจำของเขา ท่าทางร่างกายของเขาจะผ่านการโหมกระหน่ำออกกำลังอย่างหนักหน่วง ดูได้จากคราบเหงื่อที่ไหลรินไปตามกายของเขา ลมหายใจเข้าออกที่หนักหน่วงแต่เชื่องช้า แต่ละจังหวะทำให้กล้ามเนื้อช่วงอกที่แน่นเปลี้ยสั่นกระเพื่อม มันช่างดึงดูดเหลือเกิน

ท่าทางเขาจะไปแล้ว เวลาช่างไม่ยุติธรรมเลย ผ่านไปรวดเร็วดุจสายลมพัดในเวลาที่เรามีความสุข แต่เดินช้าราวกับเข็มวินาทีหยุดนิ่งเมื่อยามที่เรารอคอย วันนี้ฉันก็ยังคงไม่กล้าพูดกับเขา ไม่รู้สินะ ฉันเพียงกลัวว่าการเริ่มต้นพูดคุย จะทำให้สิ่งดี ๆ นี้สูญหายไป บางทีการกดความรู้สึกไว้ แล้วเฝ้าดูอย่างห่วงหา อาจดีกว่าการระบายมันออกไป แต่ต้องสูญเสียมันไปตลอดกาล ฉันก็แค่กลัวการเปลี่ยนและเกลียดการสูญเสียเท่านั้นเอง

ฉันเคยขอคำปรึกษากับเพื่อนของฉันเรื่องนี้ แน่นอนว่าด้วยความกระดากใจจึงอ้างชื่อเพื่อนอีกคนหนึ่ง เพื่อนของฉันก็แสนดี แนะนำสารพัดวิธีในการเริ่มคุยและให้กำลังใจอย่างเต็มที่ แต่จนแล้วจนรอดด้วยความหน้าบางของฉันทำให้สารพัดแผนการที่เพื่อนแนะนำมาไม่เคยถูกใช้ เพื่อนของฉันจึงยื่นคำขาดว่าให้ฉัน "ไปอัพหน้ามาก่อน" ไม่ใช่การอัพให้หน้าตาดูเกาหลีขึ้นนะ แต่ทำให้หน้าหนาขึ้นต่างหาก จะได้กล้าที่จะทำอะไรซักที ซึ่งคำแนะนำนี้ทำให้ฉันงอนเพื่อนไม่ไปขอคำปรึกษาหลายวันทีเดียว

เวลาก็ล่วงเลยไปนาน ฉันรู้ตัวดีว่าอีกไม่นานคงไม่มีโอกาสได้พบเจอกับเขาที่นั่นอีกแล้ว มันเป็นช่วงเวลาที่น่าหวั่นไหว จิตใจที่เปราะบางพยายามกระตุ้นให้ฉันทำอะไรบางอย่างแปลก ๆ ออกไป แต่สุดท้ายความรู้สึกกลัวก็ยังกดสิ่งอื่นเอาไว้และได้แต่ปล่อยให้กาลเวลาพัดพามันจากไป

นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้นึกถึงเขา อาจเป็นเพราะลางสังหรณ์บางอย่างก็ได้ที่ทำให้ฉันฉุกนึกถึงเขาขึ้นมา และเหมือนว่าลางสังหรณ์ของฉันจะแม่นซะด้วย เพราะวันนี้ฉันได้พบกับเขาคนนั้นในสถานที่แห่งนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนไปมาก แต่ฉันก็ยังจำเขาได้ เขาผู้ที่ฉันเคยเห็นในวันนั้น วันนี้เขาช่างเปลี่ยนไปเยอะเหลือเกิน ผมที่ยาวขึ้นทำให้เค้าหน้าดูอ่อนโยนลง เสื้อผ้าชุดออฟฟิศเข้ารูปทำให้เขาดูตัวเล็กลงไป กระโปรงและส้นสูงที่เขาสวมใส่ มันช่าง....ไม่สามารถจะสรรหาคำบรรยายใด ๆ ได้


ปล. ช่วงนี้อารมณ์ติส ๆ + อ่านนิยายแนวรัก ๆ มาก็เลยลองเขียนดูบ้าง รู้ตัวว่าเขียนไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็อยากแบ่งปันให้อ่านครับ
ปล2. มีคำแนะนำ ติชมอะไร ก็บอกกันได้ครับ อันไหนอ่านแล้วสะเทือนใจจนเกินไป เดี๋ยวผมลบทิ้งเอง :p

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น